การประท้วงต่อต้านหนังหมิ่นศาสนาอิสลามลุกลามไปหลายประเทศ

ต่างประเทศ
15 ก.ย. 55
08:25
111
Logo Thai PBS
การประท้วงต่อต้านหนังหมิ่นศาสนาอิสลามลุกลามไปหลายประเทศ

การประท้วงในโลกมุสลิมเพื่อต่อต้านภาพยนตร์ดูหมิ่นศาสดาของศาสนาอิสลาม ที่สร้างโดยชาวอเมริกันได้ลุกลามไปหลายประเทศ ไม่เพียงแต่สถานทูตของสหรัฐเท่านั้นที่ตกเป็นเป้าโจมตี สถานทูตของชาติตะวันตกก็ถูกโจมตีด้วยเช่นกัน ขณะที่ศพของเอกอัครราชทูตสหรัฐและเจ้าหน้าที่อีก 3 คนที่เสียชีวิตในลิเบีย ถูกส่งกลับถึงสหรัฐแล้ว

ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ผู้นำสหรัฐ เดินทางมาร่วมพิธีรับศพนายคริส สตีเว่นส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำลิเบียและเจ้าหน้าที่สหรัฐอีก 3 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีสถานกงสุลในเมืองเบงกาซี พิธีมีขึ้นที่ฐานทัพอากาศแอนดรูว์ ในรัฐแมรี่แลนด์ โอบาม่าได้กล่าวสดุดีผู้เสียชีวิตและกล่าวว่าชาวอเมริกันจะไม่มีวันลืมการสละชีพของสตีเว่นส์และเจ้าหน้าที่อีก 3 คน นอกจากนี้ประธานาธิบดีโอบาม่ายังได้พบปะพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับครอบครัวผู้เสียชีวิต

 ด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติประณามการโจมตีสถานทูต,สถานกงสุลของสหรัฐและชาติตะวันตก เนื่องจากหน้าที่ของการทูตและนักการทูตเป็นไปอย่างสันติ และถือเป็นกลไลสำคัญในส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศและวัฒนธรรม ก่อนหน้านี้นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติหรือ
ยูเอ็นประณามภาพยนตร์ที่ดูหมิ่นศาสดาของศาสนาอิสลามและเป็นสาเหตุของการประท้วงในโลกมุสลิม ว่าเป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อจงใจกระตุ้นให้เกิดกระแสคลั่งศาสนา ขณะที่รัฐบาลสหรัฐเองก็ประณามภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน

การประท้วงเมื่อวานนี้ได้ลุกลามไปอีกหลายประเทศ นอกจากเยเมนและอียิปต์แล้ว ยังมีการประท้วงเกิดขึ้นในบังคลาเทศ,อินโดนีเซีย,มาเลเซีย,ปากีสถาน,อิรัก,อิสราเอล,ฉนวนกาซ่า,โมร็อคโค,ซีเรีย,คูเวต,ไนจีเรียและเคนย่า การประท้วงในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 15 คน ในจำนวนนี้รวมถึงเอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ 4 คน

ที่ประเทศตูนิเซียเป็นอีกจุดหนึ่งที่ผู้ประท้วงพยายามจะบุกเข้าไปในสถานทูตสหรัฐในกรุงคาร์ทูม และขว้างระเบิดเพลิงใส่สถานทูต ตำรวจต้องใช้แก็สน้ำตาและยิงกระสุนจริงเพื่อสลายการประท้วง การปะทะกันเมื่อวานนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บหลายสิบคน ไม่เพียงแต่สถานทูตสหรัฐเท่านั้นที่ตกเป็นเป้าโจมตี สถานทูตของเยอรมนีและอังกฤษในตูนิเซียก็ถูกโจมตีด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งสองประเทศไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ที่เป็นชนวนเหตุความรุนแรงในครั้งนี้แต่อย่างใด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง