ระดับน้ำที่ท่วมขังใน อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เพิ่มสูงขึ้น

ภูมิภาค
17 ก.ย. 55
02:39
155
Logo Thai PBS
ระดับน้ำที่ท่วมขังใน อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เพิ่มสูงขึ้น

ฝนที่ยังคงตกหนักทำให้พื้นที่การเกษตรในหลายจังหวัดถูกน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะนาข้าวที่เกษตรกรไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทัน ส่วนน้ำที่ระบายมาจากจังหวัดสุโขทัยผ่านแม่น้ำยมสายเก่า ส่งผลให้ระดับน้ำที่ท่วมขังในอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เพิ่มสูงขึ้น

น้ำที่ระบายมาจากจังหวัดสุโขทัยผ่านแม่น้ำยมสายเก่าล้นฝายประตูระบายน้ำบางแก้วได้เอ่อเข้าท่วมถนน ในตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้  ชาวบ้านต้องรีบนำทรัพย์สินขึ้นที่สูงเนื่องจากน้ำจากจังหวัดสุโขทัยยังมีปริมาณมาก และไหลลงมาสมทบต่อเนื่อง

นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า มวลน้ำจากจังหวัดสุโขทัยได้ไหลผ่านเข้าสู่พื้นที่ลุ่ม 3 อำเภอ คือ อำเภอบางระกำ อำเภอพรหมพิราม และอำเภอเมือง ส่งผลทำให้มีพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมกว่า 22,500 ไร่ บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมกว่า 1,000 ครัวเรือน

ขณะเดียวกัน เตือนให้ประชาชนพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยมในอำเภอบางระกำเตรียมรับมือกับมวลน้ำระลอกใหม่ จากจังหวัดสุโขทัยที่กำลังจะเข้าสู่จังหวัดพิษณุโลกใน 1-2 วันนี้ นอกจากนี้ น้ำจากแม่น้ำยม ยังเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในตำบลบางเคียน อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ระดับน้ำท่วมสูงเกือบครึ่งเมตร

ส่วนถนนที่ก่อสร้างเลียบตลิ่งของแม่น้ำน่านได้ถูกกัดน้ำเซาะกัดจนทำให้ถนนขนาด 2 ช่องจราจร และทรุดตัวเป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ติดถนนสายดังกล่าว ได้รับผลกระทบเข้า-ออกบ้านไม่ได้ สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนที่พักอาศัยอยู่ เนื่องจากเกรงว่าตลิ่งจะพังเสียหายเพิ่มขึ้นอีก

ที่จังหวัดกาญจนบุรีเกิดน้ำท่วมขังบริเวณถนนริมน้ำหน้าเมืองกาญจนบุรี จนถึงเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ระดับน้ำสูงประมาณ 20 เซนติเมตร สาเหตุเนื่องจากฝนที่ตกหนักในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำบริเวณริมถนนระบายไม่ทัน จึงเกิดน้ำท่วมขัง

ขณะที่สวนยางพาราของชาวบ้านในอำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ ถูกพายุฝนพัดกระหน่ำหลายร้อยไร่ ต้นยางที่หักโค่นส่วนใหญ่มีอายุ 10 ปี ขึ้นไป ส่วนใหญ่เป็นยางพาราที่สามารถกรีดน้ำยางได้ 2-3 ปี ทำให้ชาวบ้านได้รับความเสียหายอย่างหนัก นอกจากต้องขาดทุนจากราคายางที่ตกต่ำแล้ว ยังต้องประสบภัยจากน้ำท่วม และพายุพัดกระหน่ำอีกด้วย

เช่นเดียวกับจังหวัดจันทบุรี ต้องออกประกาศเตือน พร้อมเปลี่ยนธงสัญลักษณ์เตือนภัยเป็นสีเหลือง เพื่อให้ประชาชนเฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่เสี่ยง

ส่วนที่จังหวัดตราด ฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลทะลักลงมาท่วมผิวจราจร ถนนบนเขาเกาะช้าง เนื่องจากร่องระบายน้ำเล็กระบายน้ำไม่ทัน นอกจากนี้ น้ำยังไหลท่วมผิวจราจร ตั้งแต่โรงแรมเคซีเกาะช้าง บ้านหาดทรายขาว ตำบลเกาะช้าง ถนนสายบ้านคลองพร้าว-บ้านมาบค้างคาว ระดับน้ำท่วมสูงรถขนาดเล็กไม่สามารถแล่นผ่านได้ ประชาชนต้องหากระสอบทรายมาปิดกั้นป้องกันน้ำท่วม

ขณะที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ หมู่ 7 ตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก และที่วัดโพธิ์เลื่อน โรงเรียนวัดโพธิ์เลื่อน หมู่ 1 ตำบลบ้านกระแชง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ ระดับน้ำเพิ่มสูงจากเดิมประมาณ 50-80 เซนติเมตร ทำให้ชาวบ้านจึงต้องเร่งขนย้ายข้าวของหนีน้ำขึ้นที่สูง

นอกจากนี้ ยังพบสัตว์มีพิษอย่างตะขาบ งู เริ่มหนีน้ำลอยบนผิวน้ำ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และเจ้าหน้าที่องค์กรท้องถิ่นในพื้นที่ต้องเตือนให้ชาวบ้านระมัดระวัง ส่วนที่วัดโพธิ์เลื่อน และโรงเรียนวัดโพธิ์เลื่อน ที่ระดับน้ำท่วมเมื่อคืนที่ผ่านมา ยังไม่มีรายงานระดับน้ำที่ชัดเจน ซึ่งวันนี้จะมีการประเมินกันอีกครั้งว่าต้องสั่งให้มีการปิดเรียนชั่วคราวหรือไม่


ข่าวที่เกี่ยวข้อง