ภาคเหนือน้ำท่วมหลายจังหวัด แต่ภาคใต้ฝนตกน้อยลง

ภาคเหนือหลายจังหวัด เผชิญกับภาวะน้ำท่วมสูง เนื่องจากน้ำจากพื้นที่ตอนบนไหลมาสมทบ แต่สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้เริ่มคลี่คลาย เพราะฝนตกน้อยลง

บ้านเรือนประชาชนในตำบลรังนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะหมู่บ้านริมแม่น้ำยม ถูกน้ำท่วมจากน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดสุโขทัย ทำให้ชาวบ้านต้องเร่งขนทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงไปอยู่บนถนน หลังมีรายงานว่า จะมีปริมาณน้ำจำนวนมาก ไหลลงมาสมทบในพื้นที่อีกระลอก ส่วนที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ น้ำท่วม ขยายวงกว้าง เนื่องจากต้องรับน้ำมาจากแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน ส่งผลให้บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรในหมู่ที่ 13, 14 ตำบลบางเคียน ถูกน้ำท่วมสูง

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในตำบลนาแก้ว และตำบลนาแส่ง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง เริ่มคลี่คลายแล้ว หลังระดับน้ำในแม่น้ำวังลดลงกว่า 1 เมตร เจ้าหน้าที่คาดว่า หากไม่มีฝนตก น้ำที่ท่วมทุกจุด จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2 วัน ด้านระดับน้ำ ในแม่น้ำเจ้าพระยา เขตจังหวัดอ่างทอง ที่เริ่มลดระดับลงกว่า 20 เซ็นติเมตร หลังเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ลดปริมาณการระบายน้ำ แต่ยังมีน้ำเอ่อท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ เช่น ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก และตำบลจำปาหล่อ อำเภอเมือง  

ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา (16 ก.ย.) ส่งผลให้แม่น้ำน้อย เพิ่มขึ้น 15 เซนติเมตร หากฝนตกไม่หยุดภายใน 2 วัน นาข้างในหลายพื้นที่อาจถูกน้ำท่วม ส่วนปริมาณน้ำ ในแม่น้ำชี ที่ไหลผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังเพิ่มสูงขึ้น ทำให้หลายพื้นที่บริเวณที่ลุ่มริมน้ำ เริ่มได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะจังหวัดยโสธร และชัยภูมิ พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนถูกน้ำท่วม โดยจังหวัดชัยภูมิได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว 5 อำเภอ คือ อำเภอหนองบัวแดง ,หนองบัวระเหว ,บ้านเขว้า, จัตุรัส  และเนินสง่า 

ขณะที่หลายจังหวัดภาคใต้ สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย เนื่องจากฝนตกน้อยลง โดยที่จังหวัดพังงา และ ชุมพร น้ำในคลองคลองสาธารณะต่างๆ ลดลง แต่ที่จังหวัดพังงาเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม ในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด