ตำรวจเนปาลพบศพนักปีนเขาและชาวบ้าน 100 ศพ

ต่างประเทศ
4 พ.ค. 58
15:40
399
Logo Thai PBS
ตำรวจเนปาลพบศพนักปีนเขาและชาวบ้าน 100 ศพ

ขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวปีนเขาเป็นหนึ่งในรายได้หลักของเนปาล แต่ขณะนี้บริษัททัวร์หลายแห่งประกาศยุติการปีนเขา หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เพราะยังมีความเสี่ยง ล่าสุด พบร่างผู้เสียชีวิตประมาณ 100 คนแล้วอยู่ใต้กองหิมะที่ถล่มบนเทือกเขาหิมาลัย

ตำรวจ และอาสาสมัครท้องถิ่นสามารถกู้ศพนักปีนเขา และชาวบ้านได้ประมาณ 100 ศพ ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้หิมะในหมู่บ้านลังตังบนเทือกเขาหิมาลัย ทางตอนเหนือของกรุงกาฐมาณฑุ เจ้าหน้าที่ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติอย่างน้อย 7 คน และสามารถระบุอัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิตได้เพียง 2 คนเท่านั้น เจ้าหน้าที่คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตอีกประมาณ 120 คน ถูกฝังอยู่ในบริเวณนี้
 
สำหรับเหตุแผ่นดินไหวที่ผ่านมา ทำให้อาคารบ้านเรือน และเกสท์เฮาส์ 55 แห่ง ในหมู่บ้านลังตังถูกหิมะถล่มจนได้รับความเสียหายทั้งหมด ซึ่งในขณะนั้นมีนักปีนเขาประมาณ 800 คน อยู่ในพื้นที่
 
ด้านบริษัททัวร์หลายแห่งได้ประกาศยกเลิกกิจกรรมปีนเขาบนยอดเขาเอเวอร์เรสต์ในฤดูกาลปีนเขาปีนี้แล้ว เนื่องจากพนักงานยังคงหวาดกลัวว่าจะเกิดแผ่นดินไหวซ้ำ และหิมะถล่มปิดทับเส้นทางปีนเขา อีกทั้งเชือก และบันไดสำหรับปีนเขาได้รับความเสียหายอย่างมาก ล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวพุ่งสูงกว่า 7,276 คน และบาดเจ็บมากกว่า 14,300 คน
 
สำนักข่าวต่างชาติหลายสำนัก เปิดเผยว่า นายมิเนนทรา ริจาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข่าวสารเนปาลเรียกร้องให้ทีมค้นหา และกู้ภัยนานาชาติกลับประเทศ หรือให้ออกไปปฏิบัติการกู้ภัยในพื้นที่นอกเมืองหลวงแทน เพราะการค้นหา และกู้ภัยส่วนใหญ่เสร็จสิ้นแล้ว ยังเหลือเพียงงานฟื้นฟู ซึ่งชาวเนปาลทำเองได้ โดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
 
ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข่าวสารปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว พร้อมทั้งย้ำว่าขณะนี้เนปาลได้เปลี่ยนภารกิจจากการค้นหา และกู้ภัยไปสู่ภารกิจการบรรเทาทุกข์แทน และยังต้องการความช่วยเหลือจากนานาชาติอีกเป็นจำนวนมาก
 
ขณะที่ในกรุงกาฐมาณฑุ ตำรวจเนปาลห้ามประชาชนขึ้นไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเนื่องในวันวิสาขบูชา บริเวณด้านบนของวัดสวายัมภูนาถ ซึ่งได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว เนื่องจากเกรงว่าอาจเป็นอันตรายต่อพุทธศาสนิกชนได้ ปีนี้มีชาวเนปาลออกมาร่วมพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาน้อยกว่าทุกครั้ง เนื่องจากชาวเนปาลจำนวนมากเดินทางออกจากเมืองหลวงไปแล้ว และอีกจำนวนหนึ่งยังไม่กล้าออกมาข้างนอก
 
เจ้าหน้าที่ต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเกรงว่าอาจเกิดแผ่นดินไหวซ้ำขึ้นอีก และเพื่อป้องกันการโจรกรรมโบราณวัตถุ ซึ่งกำลังระบาดอย่างหนักในขณะนี้ เนื่องจากเจดีย์บางส่วนของวัดสวายัมภูนาถพังทลายลงมาหลังเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งคาดว่าภายในองค์เจดีย์มีโบราณวัตถุล้ำค่ามากมาย
 
ด้านนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส พร้อมคณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เดินทางมาที่วัดแห่งนี้ เพื่อประเมินความเสียหาย และหาทางป้องกันการโจรกรรมโบราณวัตถุ
 
ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ในวัดมีรูปปั้นขนาดเล็กจำนวนมากที่ทำจากดินเหนียว และมีสภาพสมบูรณ์ยังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ซึ่งอาจถูกขโมยไปได้ง่าย เพื่อไปขายต่อในตลาดค้างานศิลปะระดับโลก หรือผู้ศรัทธาบางคนอาจอยากได้โบราณวัตถุไปบูชา เพื่อป้องกันภัยอันตราย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง