"น้ำท่วม"กับความปลอดภัยของ"นักเรียน"

น้ำเหนือที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก นอกจากสร้างความเดือดร้อนในการดำรงชีวิตของชาวบ้านแล้ว นักเรียนบางโรงเรียนก็อาจมีความเสี่ยงจากการเดินทางไป-กลับ โรงเรียนด้วยเรือฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ซึ่งโรงเรียนบางแห่งยังขาดแคลนเสื้อชูชีพ รวมทั้งไม่มีเรือที่มีความปลอดภัยในการเดินทาง

 
แม่น้ำยมที่เอ่อท่วมถนนภายในหมู่บ้านหนองกาว ตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ทำให้เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดพรหมเกษร ต้องหันมาใช้เรือหาปลาเป็นพาหนะเดินทาง แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยงสูงที่เรือจะล่ม เพราะตัวเรือที่ทำจากเหล็ก มีน้ำหนักมากจะจมลงสู่ก้นแม่น้ำทันที หากเรือพลิกคว่ำ
 
น้ำเหนือที่ไหลบ่าเข้าท่วมนอกจากส่งผลกระทบกับความเป็นอยู่ของชาวอำเภอ บางระกำแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตราย แก่ เด็กนักเรียนที่ต้องเดินทางไปกลับเป็นประจำทุกวัน แม้เด็กบางส่วนจะสามารถพายเรือไปโรงเรียนได้ด้วยตัวเอง แต่กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ ทำให้ผู้ปกครองบางราย ต้องรับหน้าที่พายเรือรับ-ส่ง บุตรหลานด้วยความห่วงใย
 
ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดพรหมเกษร ยอมรับว่า ทางโรงเรียน ไม่มีพาหนะรับ-ส่งเด็กนักเรียน ในช่วงประสบอุทกภัย เพราะ เรือที่มีอยู่ ก็เป็นเพียงเรือไฟเบอร์ขนาด 2 ที่นั่ง ซึ่งไม่เหมาะกับการใช้งานในแม่น้ำยมที่มีระดับน้ำสูง และ ไหลเชี่ยว รวมทั้งไม่มีเสื้อชูชีพสำหรับเด็กกว่า 30 คนใช้ป้องกันตนเอง
 
นอกจากนักเรียนโรงเรียนวัดพรหมเกษรที่กำลังประสบปัญหาในการเดินทางในช่วง น้ำท่วมแล้ว ยังมีโรงเรียนอีกหลายแห่งในพื้นที่ซึ่งประสบปัญหาเดียวกัน ล่าสุดนายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สั่งการให้ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลชุมแสงสงคราม เข้ามาดูแลมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเดินทางด้วยเรือให้กับเด็กนักเรียน เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้