ผลงานของศิลปินชั้นครูถูกนำมาจัดแสดงในนิทรรศการศิลปะอาร์ตเดคโค 
ภาพวาดลายเส้นหญิงสาวชั้นสูงแก้มระเรื่อ ฝีมือศิลปินฝรั่งเศส Jean Dupas (ฌอง ดูปา) ภาพวาดหญิงสาวเปลือยกายอันอ่อนช้อยที่ถูกขับความงามโดยเครื่องประดับสีสันสดใส และตู้วิทยุดำขลับที่มีภาพวาด “ไข่มุกดำแห่งยุโรป” โจเซฟิน เบเกอร์ กำลังส่งจูบให้นก ผลงานของ Jean Dunant (ฌอง ดูนองท์) รวมถึงโคมไฟตั้งโต๊ะที่ร้อยเรียงด้วยแก้วลูกปัดกับทองแดงสีเงิน โดย Emile-Jacques Ruhlmann (เอมิล-ฌาร์ก รูฮ์แมนน์) ล้วนเป็นตัวอย่างชัดเจนที่แสดงออกถึงความเป็นศิลปะอาร์ตเดคโค ซึ่งโดดเด่นทางด้านความหรูหรา ความทันสมัย และประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า ผลงานของศิลปินชาวฝรั่งเศสชั้นครูกว่า 200 ชิ้น นำมาจัดแสดงในนิทรรศการ “Masterpieces of French Art Deco” ที่หอศิลป์คริสตี้ กรุงปารีส
ศิลปะอาร์ตเดคโคถือกำเนิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศสในยุค 1920 ถูกสรรค์สร้างขึ้นมาเพื่อการตกแต่ง และรุ่งเรืองถึงขีดสุดไปทั่วโลกในยุค 1930 โดยเอกลักษณ์ของศิลปะแนวนี้คือการประยุกต์รูปทรงเรขาคณิตมาใช้ในการออกแบบอย่างสมมาตร แนวคิดนี้ได้ส่งผลไปยังการออกแบบสาขาต่างๆ มากมายทั้งสถาปัตยกรรม การออกแบบภายใน แฟชั่น และเครื่องประดับ รวมถึงงานทัศนศิลป์อย่าง จิตรกรรม กราฟิก และภาพยนตร์ ต่อมาเสื่อมความนิยม และกลับมาอีกครั้งในยุค 1980 ในแวดวงการออกแบบกราฟิก พร้อมทั้งจุดประกายแนวทางสร้างสรรค์งานศิลป์ให้กับศิลปะกลุ่มเม็มฟิส และศิลปะแนวป็อบอาร์ต
นอกจากจะมีภาพวาด เครื่องเรือนที่วิจิตรบรรจงมากมายจากการรังสรรค์ของ Jean Dupas (ฌอง ดูปา) Jean Dunant (ฌอง ดูนองท์) และ Emile-Jacques Ruhlmann (เอมิล-ฌาร์ก รูฮ์แมนน์) จัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้แล้ว ยังมีผลงานโดดเด่นของศิลปินอีกหลายคนในยุคเดียวกัน อย่างบานพับไม้เคลือบเงาสีดำขลับผสานลวดลายอันดึงดูดใจของศิลปินชาวไอริช Eileen Gray (ไอลีน เกรย์)
Sonja Ganne หัวหน้าแผนกศิลปะและการออกแบบยุโรปในศตวรรษที่ 20 หอศิลป์คริสตี้ กล่าวว่า ผลงานศิลปะที่จัดแสดงทั้งหมดในงานนี้เป็นตัวแทนของยุคอาร์ตเดคโคได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นการผสานวัฒนธรรมข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก (Transatlantic) ผลงานศิลปะที่จัดแสดงทุกชิ้นจะถูกนำไปประมูลที่นิวยอร์กในวันที่ 20 - 21 ธันวาคมนี้ โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าการซื้อขายทั้งหมดจะมากกว่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐ