ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดใน จ.นราธิวาส ยังไม่พ้นขีดอันตราย
ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจังหวัดปัตตานี เข้าเก็บหลักฐานชิ้นส่วนวัตถุระเบิด บนถนนสายที่ 42 นราธิวาส-ปัตตานี ตำบลมะนังดารัม อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี หลังคนร้ายนำระเบิดเคโมชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนนสายดังกล่าว
แรงระเบิดทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่น และ สะเก็ดระเบิดถูกรถยนต์ชาวบ้านเสียหาย 1 คัน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ถนนสายกะลาพอ-กะพ้อ ตำบลเตราะบอน อำเภอสายบุรี เกิดเหตุคนร้ายยิงดาบตำรวจมุสตอฟา แลแฮ ตำรวจงานป้องกันและปราบปรามจังหวัดปัตตานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะขี่รถจักรยานยนต์ ออกหาข่าวในพื้นที่
ขณะที่ตำรวจ และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจังหวัดยะลา เข้าตรวจสอบบนถนนสายยะลา-บ้านเนียง ตำบลท่าสาป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา หลังคนร้ายจำนวน 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ประกบยิงนายปริญญา สิทธิพันธ์ และ นางเสาวลักษณ์ อินทสูตร สองสามีภรรยา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้ง 2 คนส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา แต่นางเสาวลักษณ์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ส่วนที่จังหวัดนราธิวาสเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดขึ้นจำนวน 2 จุด คือ บริเวณเสาไฟฟ้าแรงสูง ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนอีกจุดเกิดระเบิดใกล้ทางขึ้นสะพานลอยใกล้จุดตรวจต้นไทร อำเภอบาเจาะ ทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 4 คน ในจำนวนนี้มีเด็กอายุ 4 ขวบ รวมอยู่ด้วย ล่าสุดอาการของเด็กปลอดภัยแล้ว เหลือเพียงนายซอบี และ นางไซกี รอแง สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นบิดามารดาของเด็ก อายุ 4 ขวบ อาการยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากถูกสะเก็ตระเบิดเข้าลำตัวหลายแห่ง แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
ส่วนบรรยาการร้านค้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้ปิดร้านค้าในวันศุกร์ที่ผ่านมา เพราะคำขู่ จากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ที่ต้องการให้หยุดขายสินค้า วันนี้ร้านค้าหลายแห่งเริ่มเปิดกิจการกันบ้างแล้ว แม่ค้าส่วนใหญ่ บอกว่า ยังหวาดกลัวกับคำขู่ แม้เจ้าหน้าที่ยืนยันจะดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจ