ค้นไร่ “พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์” พบแท่งงคอนกรีตปริศนาและเศษเสื้อผ้า 
นายสว่าง นุ่มจุ้ย บิดาของนายสามารถ นุ่มจุ้ย บุคคลสูญหายพร้อมภริยา กล่าวถึงการแถลงผลการพิสูจน์โครงกระดูกของสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ที่ไม่ตรงกับดีเอ็นเอของนายสามารถ นุ่มจุ้ย บุตรชายที่หายไป ว่า เคารพต่อผลการวินิจฉัย แต่เนื่องจากตนและญาติจำเสื้อกางเกงที่อยู่กับโครงกระดูกศพที่ 2 ได้ว่าเป็นของนายสามารถก่อนหายตัวไป และฟันกรามด้านบนหลอ 1 ซี่ ตรงกับฟันของนายสามารถ ดังนั้น ในวันนี้ (1 ต.ค.) ตนได้มอบหมายให้ น.ส.วิมล นุ่มจุ้ย บุตรสาว ไปยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ต่อ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้ช่วยตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเออีกครั้งหนึ่ง หากผลตรวจออกมาใช่หรือไม่ใช่ จะยอมรับและค้นหาศพลูกต่อไป
ทั้งนี้ นายสว่าง ยังได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจรวจภูธร ท่าไม้รวก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายพลเทพ สุวรรณวิเชียร ที่ปรึกษาทางกฎหมายและหัวหน้าทีมทนายความของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพและร่วมกันลักทรัพย์หรือรับไว้ซึ่งของโจร และในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้ได้รับความเสียหายและอับอาย เพิ่มเติม โดยสาเหตุที่เข้าแจ้งความเนื่องจากนายพลเทพ เป็นคนให้ข่าวกับสื่อมวลชน ว่า นายสามารถและนางอรษายังไม่ตาย แต่ถูกจับกุมตัวอยู่ที่ประเทศพม่า ซึ่งจากกรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่านายพลเทพ มีส่วนรู้เห็นว่าสองสามีภรรยาหายตัวไปไหน
ส่วนการค้นหาร่องรอยทางคดียังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้เครื่องตรวจวัตถุโลหะและเครื่องค้นหาวัตถุโบราณเข้าทำการสแกน ตรวจค้นภายในผิวดิน พร้อมขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิสว่างสรรเพ็ชญธรรมสถาน ร่วมงมเก็บหลักฐานภายในคูน้ำภายในไร่ด้วย ซึ่งจากการงมค้นหาหลักฐานในคูน้ำ เจ้าหน้าที่พบเศษเสื้อผ้า และแท่งปูนอยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งว่าแท่งปูนที่พบดังกล่าวเป็นแท่งปูนชนิดใดและเหตุใด จึงมีแท่งปูนอยู่ใต้น้ำ