ตรวจพบแคมป์กักกันชาวโรฮิงญาเพิ่มอีก 2 แห่ง
หวายที่พันด้วยเทปกาวสีดำเป็นหลักฐานที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์เก็บไว้ เพื่อตรวจสอบว่าถูกใช้สำหรับทุบตีชาวโรฮิงญา และบังคลาเทศ ที่ควบคุมตัวบนเนินทุเรศ เทือกเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา แคมป์กักกันชั่วคราวแห่งที่สองที่ตรวจพบ หลังต้องเดินทางในเส้นทางที่ลาดชันเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ร่องรอยโรงนอนจำนวน 5 หลัง ห้องครัว และห้องน้ำที่เพิ่งก่อสร้างใหม่ได้ไม่นาน ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ชาวโรฮิงญาไม่ต่ำกว่า 200 คนถูกย้ายออกจากสถานที่กักกันแห่งนี้ไม่เกิด 2 วัน และอาจมีการย้ายชาวโรฮิงญาจากแคมป์ที่พักจุดแรกมาพักพิงที่นี่ก่อนจะย้ายไปยังแห่งอื่นเนื่องจากอยู่ห่างไม่มากนัก
จากการสำรวจรอบบริเวณยังพบหลุมจำนวน 2 หลุม แต่ไม่พบว่าเป็นหลุมฝังศพ นอกจากนี้จากการสำรวจรอบบริเวณใก้ลเคียง ยังพบหมายเลขโทรศัพท์ที่ตกในเส้นทางเดินเชื่อมระหว่างภูเขาซึ่งบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ต่างประเทศไว้บนซองบุหรี่เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เพื่อตรวจสอบดีเอ็นเอ
สำหรับความคืบหน้าในการติดตามผู้ต้องหาวันนี้(5 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายยาหลี เขร็ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านตะโล๊ะ ต.ปาดังเบซาร์ หนึ่งใน 8 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับและได้เข้ามอบตัว ไปเก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้าน ขณะที่ผู้ต้องอีก 3 คนยังคงหลบหนี โดยเฉพาะรองนายกเทศมนตรี ต.ปาดังเบซาร์ พร้อมตั้งศูนย์เฉพาะกิจติดตามคดีค้ามนุษย์เพื่อขยายผลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการนี้ ตั้งแต่จ.ระนอง จ.นครศรีธรรมราช และจ.สตูล ซึ่งเป็นต้นทางในการเข้ามาของกลุ่มค้ามนุษย์อีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันก็เร่งหาหลักฐานความเชื่อมโยงของเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเรียกรับผลประโยชน์ หลังจากก่อนหน้านี้ได้สั่งย้ายด่วนเจ้าหน้าที่ในจ.สตูล และต.ปาดังเบซาร์ไปแล้วบางส่วน
ขณะที่ครอบครัวของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้เมื่อวานนี้(4 พ.ค.) นำหลักฐานทางการเงินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ เพราะฐานะของครอบครัวยากจน มีหนี้สิน จึงอยากขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตามในวันนี้(5 พ.ค.) เจ้าหน้าที่พบชาวโรฮิงญา 4 คนที่เดินพลัดหลงป่าระหว่างถูกเคลื่อนย้ายแคมป์ที่พัก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำนอกจากนี้ในจ.พังงา เจ้าหน้าที่ยังพบแคมป์ที่พักชั่วคราวของชาวโรฮิงญาที่บ้านบางนายสัง ต.บางนายสี อ.ตะกั๋วป่า และพบศพที่ถูกฝัง 2 ศพ