ขึ้นทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ ปี 2

Logo Thai PBS
ขึ้นทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ ปี 2

เป็นปีที่ 2 แล้ว ที่มีการขึ้นทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ ไม่เพียงมีคนรักหนังร่วมเสนอชื่อหนังไทยในดวงใจมากกว่าปีก่อน แต่ยังเพิ่มคณะกรรมการที่คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์มาช่วยคัดเลือก จนออกมาเป็นหนังประวัติศาสตร์ หนังบ้าน และหนังไทยในตำนานถึง 25 เรื่อง

เรื่องราวของผู้หญิงที่ผิดหวังในรัก ถูกถ่ายทอดได้อย่างเข้าถึงอารมณ์สะพรึงกลัว เมื่อเธอจากไปพร้อมลูกในท้อง แม่นาคภาพยนตร์ไทยอมตะที่ถูกนำมาสร้างไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง ในรูปแบบที่ต่างไป โดยเฉพาะแบบฉบับที่สร้างโดยเสน่ห์ โกมารชุน โดยมีปรียา รุ่งเรือง รับบทแม่นาค สร้างรายได้เป็นประวัติการณ์ถึง 1,000,000 บาทเมื่อ 53 ปีก่อน บทบันทึกแห่งห้วงอารมณ์ ที่สะท้อนความเชื่อของสังคมไทย โดยใช้การแสดงนาฏลิเกเล่าเรื่อง ทำให้ภาพยนตร์แม่นาค พระโขนง เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ได้รับการคัดเลือกให้ขึ้นทะเบียนมรดก ภาพยนตร์ของชาติในปีนี้ (2555) การคัดเลือกในหลายขั้นตอน ยังมาจากคณะกรรมการที่มีความเชี่ยวชาญในวงการภาพยนตร์ ที่ล้วนเคยได้รับอิทธิพลการสร้างงานจากหนังไทย

วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ผู้กำกับภาพยนตร์ กล่าวว่า "จริงๆมีหลายๆเรื่อง ถ้าบอกได้ก็คือสวรรค์มืด ของคุณรัตน์ เปสตันหยี ที่เป็นหนังเพลง คือหนังของคุณรัตน์นี้เป็นหนังโปรดของผมเกือบทุกเรื่อง แล้วก็มีส่วนในการสร้างแรงบันดาลใจที่ทำหนังไทยมาจนถึงทุกวันนี้"

ขณะที่ โดม สุขวงศ์ ผู้อำนวยการหอภาพยนตร์ ระบุว่า "เป็นเกียรติภูมิของวงการว่า ภาพยนตร์ที่คนไทยสร้างก็มีคุณค่าเป็นมรดกของชาติเช่นเดียวกับศิลปะโบราณ วัตถุอื่น เหมือนวรรณกรรม เหมือนจิตรกรรม รวมถึงที่มีการจัดขึ้นทะเบียนก็เพื่อที่จะอนุรักษ์ภาพยนตร์เพื่อเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติ แล้วเป็นหลักประกันว่าจะอยู่ต่อถึงลูกหลาน"

ภาพยนตร์ที่ได้รับการคัดเลือกนอกจากต้องมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังต้องเสนออย่างมีศิลปะ เป็นเอกลักษณ์ และยังต้องเป็นภาพยนตร์ไทยที่เสี่ยงต่อการสูญเสีย หรือชำรุด แต่ยังพอมีต้นฉบับครบถ้วนพอที่จะบูรณะได้ เช่น ภาพยนตร์ข่าวเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จนิ วัตพระนคร ปี 2481,ภาพยนตร์เงียบเรื่องโชค 2 ชั้น หนังไทยแท้เรื่องแรกที่มีอายุถึง 85 ปี,ภาพยนตร์การ์ตูนไทย ที่ประยุต เงากระจ่าง สร้างสรรค์ไว้ เมื่อ 57 ปีก่อน เรื่องเหตุมหัศจรรย์,อินทรีทอง ภาพยนตร์ดัง ที่จารึกการจากไปของมิตร ชัยบัญชา และหนังไทยในตำนานอีกหลายเรื่อง รวมแล้ว 25 เรื่องด้วยกัน

รวมถึง ศักดินา ฉัตรกุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ กล่าวว่า "ผมเองเป็นนักประวัติศาสตร์ อาจให้ความสำคัญกับแง่มุมประวัติศาสตร์ อิทธิพลต่อสังคม แต่ท่านที่เป็นศิลปิน อาจให้น้ำหนักกับคุณค่าของศิลปะมากซึ่งอาจแตกต่างกัน ซึ่งผลที่ออกมาบางเรื่องอาจถูกใจบางคน บางเรื่องอาจไม่ถูกใจ แต่ก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปมากมายเท่าไหร่"

ทั้งหมดนี้ยังมาจากความทรงจำ และความประทับใจของคนรักหนังที่ร่วมส่งรายชื่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยคณะกรรมการเน้นย้ำถึงคุณค่าภาพยนตร์ไทย ว่าคงไร้คุณค่าหากเก็บรักษา แต่ไม่ได้เผยแพร่ ดังนั้นตลอดเดือน พ.ย.และ ธ.ค.นี้ จะมีการจัดฉายภาพยนตร์ที่ขึ้นทะเบียนบางส่วนให้ได้ชมที่ห้องสมุดเชิด ทรงศรี หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)  โรงภาพยนตร์ศรีศาลายา


ข่าวที่เกี่ยวข้อง