แฮกเกอร์โจมตีเว็บไซต์รัฐบาลฟิลิปปินส์ หลังไม่พอใจกฎหมายป้องกันอาชญากรรมบนอินเทอร์เน็ตฉบับใหม่

กฎหมายป้องกันอาชญากรรมบนอินเทอร์เน็ตฉบับใหม่ของฟิลิปปินส์ ที่เพิ่งประกาศใช้เมื่อช่วงกลางสัปดาห์นี้ สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนที่มองว่าเป็นกฎหมายจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ส่งผลให้คนที่ไม่พอใจตอบโต้ด้วยการโจมตีเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการ จนทางการต้องขอให้แฮกเกอร์ยุติการกระทำดังกล่าว

โฆษกของประธานาธิบดีเบนิกโน่ นอยนอย อาคีโน่ ได้แถลงข่าวขอให้แฮกเกอร์ทั้งหลายยุติการโจมตีเว็บไซต์ของรัฐบาล ซึ่งประกอบไปด้วยเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านการพยากรณ์อากาศ, แผ่นดินไหว, คลื่นสึนามิและเว็บไซต์ของหน่วยงานด้านสวัสดิการสังคม เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก

รัฐบาลเข้าใจดีว่า มีประชาชนบางส่วนที่ไม่พอใจกฎหมายป้องกันอาชญากรรมบนอินเทอร์เน็ตฉบับใหม่ แต่ควรจะแสดงออกด้วยวิธีอื่น ทั้งนี้ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่เผชิญกับภัยธรรมชาติบ่อยครั้ง ทั้งพายุและแผ่นดินไหว เนื่องจากตั้งอยู่บน "วงแหวนแห่งไฟ" ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดแผ่นดินไหว ดังนั้นข้อมูลเรื่องสภาพอากาศและแผ่นดินไหวจึงมีความสำคัญมาก

และเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา(6 ต.ค.) เว็บไซต์ที่ถูกโจมตีสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ สำหรับกฎหมายป้องกันอาชญากรรมบนอินเทอร์เน็ต รัฐบาลระบุว่าบัญญัติขึ้นมาเพื่อจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวง การขโมยข้อมูล การส่งข้อความขยะ หรือกระทั่งการเผยแพร่ภาพอนาจารเด็ก ซึ่งกฎหมายที่มีอยู่ไม่สามารถจัดการได้

แต่มาตราที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก คือ มาตราที่ระบุให้การโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทออนไลน์ เป็นการก่ออาชญากรรม ซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุกถึง 12 ปี นอกจากนี้ยังให้อำนาจกระทรวงยุติธรรม สั่งปิดเว็บไซต์ที่อาจเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม และสามารถตรวจสอบ E-mail ข้อความแชท หรือวิดีโอแชท ได้โดยไม่ต้องขอหมายศาล ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดแล้ว เพื่อขอให้ยกเลิกการบังคับใช้