เอเอฟซีส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ 6 ทีมในศึกฟุตบอลไทยลีก โดย 3 ใน 6 ทีมเป็นทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา ขณะที่ 12 ทีมที่เหลือจะต้องส่งเอกสารความคืบหน้าในการบริหารสโมสรภายในวันที่ 19 ต.ค.นี้ เพื่อตัดสินโควตาของสโมสรจากไทยในการเล่นเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก โดยในปีนี้มีคะแนนเต็มทั้งหมด 1,000 คะแนน โดยทีมที่จะได้สิทธิเข้าแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกจะต้องทำคะแนนประเมินของเอเอฟซีให้ได้อย่างต่ำ 600 คะแนน แต่ในปีนี้จะมีการเพิ่มคะแนนผลงานของสโมสรในระดับเอเชียบวกกับผลงานของทีมชาติเข้ามาร่วมเป็นตัวประเมินด้วย
ขณะเดียวกันสิ่งที่วงการฟุตบอลไทยต้องกังวลคือ ค่าเฉลี่ยของคนดูในการแข่งขันแต่ละนัดของไทยมีเพียง 4,800 คน ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่เอเอฟซีวางไว้ที่ 5,000 คน นอกจากนั้นยังมีโอกาสที่ไทยอาจจะถูกตัดโควตาทีมที่เข้าแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกในปีหน้า เนื่องจากมีชาติคู่แข่งที่เพิ่มเข้ามาหลายชาติ ขณะที่โควตายังมีเท่าเดิม
อย่างไรก็ตามสโมสรของไทยหลายทีมมีจุดแข็งที่น่าจะช่วยเพิ่มคะแนนประเมินให้กับไทยคือ ผลงานของสโมสรไทยในการแข่งขันระดัยเอเชียทั้งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ทำผลงานได้ค่อนข้างดีในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก แม้สุดท้ายจะต้องตกรอบไปก็ตาม รวมไปถึงชลบุรี เอฟซี ที่สามารผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลเอเอฟซีคัพ รวมทั้งสโมสรไทยยังมีจุดแข็งที่แฟนบอลได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมกับทีมมากขึ้นตรงตามมาตรฐานที่เอเอฟซีต้องการ
สำหรับคะแนนทั้งหมดจากการประเมินของเอเอฟซีจะเป็นตัวกำหนดโควตาสโมสรไทยของไทยที่มีสิทธิเข้าแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนศ์ลีกในปีหน้า โดยในฤดูกาลนี้ไทยได้สิทธิ 1 ที่นั่ง และ สิทธิ์เพลย์ออฟ 1 ที่นั่ง โดยการประเมินจะมีขึ้นในการประชุมเอเอฟซีในระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย.นี้