นายกฯ ยืนยัน โครงการจำนำข้าวไม่ขาดทุน พร้อมแจง ส.ว.-ฝ่ายค้าน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังการประชุม ครม. วานนี้ (9 ต.ค.) ว่าการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเป็นไปเพื่อประโยชน์ของเกษตรกร และมั่นใจว่าจะชี้แจงในการอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภาและอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านได้ แต่เบื้องต้นได้สั่งการให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ทุจริตอย่างจริงจังแล้ว พร้อมย้ำโครงการนี้ไม่มีสต๊อกลมและไม่ขาดทุนไปกว่าปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถสรุปยอดการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ได้ จนกว่าจะสิ้นสุดโครงการในสิ้นปี
ด้านนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ดำเนินโครงการรับจำนำ 21 ล้านตันข้าวเปลือก,ข้าวสาร 11 ล้านตัน และได้ดำเนินการขายแบบจีทูจี กว่า 7 ล้านตัน จำนวน 6 สัญญา ส่วนข้าวที่เหลืออีก 4 ล้านตัน น่าจะขายให้กับต่างประเทศได้ในเร็ว ๆ นี้
ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กล่าวชี้แจงผลการดำเนินคดีทุจริตรับจำนำข้าวว่า จับกุมผู้กระทำความผิดไปแล้ว 25 ราย ความเสียหาย ล้านบาท ส่วนกรณีข้าวหายล้านตันได้สอบถามส.ส.พรรคประชาธิปัตย์แล้ว แต่ไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้ ดังนั้นในสัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริต เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ และนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงอ้างอิงข้อมูลที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าเป็นข้อมูลเดิมของกระทรวงพาณิชย์ ที่กรมการค้าต่างประเทศ และองค์การคลังสินค้า
ส่วนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน แถลงยืนยันจะยื่นญัตติและเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน แต่วันนี้ จะตั้งกระทู้ถามรัฐบาลเรื่องปัญหาการป้องกันน้ำท่วมและโครงการรับจำนำข้าว
ขณะที่วันนี้ (10 ต.ค.) เวลา 10.30 น. ศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาคำร้องที่นายอดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 43 และ 84 (1) หรือไม่ ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา ตามกระบวนการหลังจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องให้ผู้ถูกร้องคือ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลได้ชี้แจงข้อกล่าวหาก่อนที่จะมีการพิจารณาวินิจฉัย