มติกมธ.ตำรวจฯใช้พนักงานชุดเดิม สอบสวนคดี
ที่ประชุมคณะกรรมมาธิการ ตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (17 ต.ค.)นำประเด็นการร้องขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนคดี พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ผู้ต้องหาในคดีกักขังหน่วงเหนื่ยว และความผิดพระราชบัญญัติอาวุธปืน
รวมถึงต้องสงสัยคดีการหายตัวไปของ 2 สามีภรรยา ใน จ.เพชรบุรี ที่นายเอก เลาหะวัฒนะ บุตรชาย และทีมทนายความได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไว้ก่อนหน้านี้มาสอบสวน
โดยมีฝั่งผู้ร้อง คือนายเอกและทีมทนายความ และฝั่งพนักงานสอบสวน ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำโดย พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 และ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าชี้แจง
สำหรับการชี้แจงของตำรวจ พล.ต.อ.ปานศิริ ระบุว่า ก่อนหน้าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ตำรวจกองปราบปรามร่วมทำคดีนี้แล้ว ขณะที่ พล.ต.ท.หาญพล ยืนยันว่า การเข้าจับกุม พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ใช้กำลังตำรวจ จำนวน 15 นาย และชี้แจงว่า พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มีพฤติกรรมหลบหนี เพราะที่ผ่านมาไม่มอบตัวตามนัด
หลังการชี้แจงประธานคณะกรรมมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนยังเป็นชุดเดิม แต่มีการเพิ่มชุดทำงานของตำรวจกองปราบปรามเข้ามา ซึ่งญาติผู้ร้องก็พอใจ ส่วนเรื่องการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐของตำรวจโดยมิชอบ จะพิจารณาในอาทิตย์หน้า
ขณะที่นายเอก ระบุว่า พอใจในการชี้แจงต่อกรรมาธิการ ในเรื่องการขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวน แต่ยังติดใจประเด็นการหลบหนีของบิดา ที่ยืนยันว่าบิดาไม่มีเจตนาหลบหนี เนื่องจากยังมีคดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลเยาวชน
ส่วนการขอเข้ารับฟังการสอบปากคำพยานต่าง ๆ รวมถึงผู้ต้องหาซึ่งเป็นภรรยาอีกคนที่ถูกจับได้ก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้รับความร่วมมือ ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอดูการทำงานของเจ้าหน้าที่อีกครั้ง