พ่อ-แม่เป็นพาหะ ทำให้เด็กป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน เพิ่มขึ้น 
รองศาสตราจารย์ พ.อ.นพ.รชต ลำกูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองกุมารเวชกรรม กุมารแพทย์โรคทางโลหิตวิทยาและมะเร็ง กล่าวระหว่างการเสวนา"โรคเลือดและโรคมะเร็งในเด็ก การรักษาเพื่อการหายขาด" ที่จัดโดยมูลนิธิกุมาร โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าในพระอุปถัมภ์พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ว่า แต่ละปีพบเด็กป่วยด้วยโรคเลือดและมะเร็งแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างโรคธาลัสซีเมีย ขณะนี้พบผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 600,000 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 2 ใน 3 ของจำนวนผู้ป่วยรวมทั้งหมด ซึ่งโรคโลหิตจาง เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม สาเหตุจากได้รับยีนธาลัสซีเมียจากพ่อแม่ ทำให้การสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงผิดปกติ เด็กจะมีอาการซีด เหลือง และในรายที่เป็นชนิดรุนแรง จะมีการเปลี่ยนแปลงของใบหน้า การเจริญเติบโตช้า รวมทั้ง มีตับโต ม้ามโตร่วมด้วย สิ่งที่น่าห่วง คือ ประชากร 60 ล้านคน พบพ่อและแม่ที่เป็นพาหะอยู่ประมาณ 20 ล้านคน
ดังนั้น หากพ่อและแม่เป็นพาหะทั้งคู่ โอกาสเสี่ยงที่จะมีลูกป่วยด้วยโรคนี้สูง ร้อยละ 25 ขณะที่การรักษา ผู้ป่วยต้องเข้ารับการถ่ายเลือดทุกเดือน ส่วนแนวทางป้องกัน แนะว่าพ่อและแม่ควรตรวจเลือดก่อนตั้งครรภ์ เช่นเดียวกับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน พบเด็กป่วยโรคนี้มากถึงร้อยละ 30 หรือประมาณ 500 คนต่อปี พบในเด็กอายุ 4-5 ปี สาเหตุเกิดจากความผิดปกติที่ไขกระดูก ยิ่งหากเม็ดเลือดขาวต่ำ จะทำให้ติดเชื้อได้ และเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่ายขึ้น แต่โรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก เป็นการให้ยาเคมีบำบัดขนาดสูง เพื่อทำลายไขกระดูก ซึ่งวิธีนี้หากได้รับการรักษาตามช่วงการรักษา ก็จะทำให้หายขาดจากโรคนี้ได้