เเม่น้ำสงคราม จ.นครพนมลดระดับ ส่งผลกระทบวิถีชีวิตชาวบ้าน

23 ต.ค. 55
14:40
681
Logo Thai PBS
เเม่น้ำสงคราม จ.นครพนมลดระดับ ส่งผลกระทบวิถีชีวิตชาวบ้าน

ปัจจุบันน้ำในเเม่น้ำสงครามลดระดับลงเรื่อยๆ ส่งผลต่อวิถีการดำเนินชีวิตและอาชีพของชาวบ้านที่อาศัยในลุ่มน้ำสงคราม จ.นครพนม โดยเฉพาะราชได้ที่ลดลงจากการจับปลาไปขายและระบบนิเวศของป่าบุ่งป่าทามที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเกิดจากสิ่งปลูกสร้างที่กีดขวางลำน้ำ ที่เป็นสาเหตุทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสงครามลดลง สอดคล้องกับความเห็นของนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม เพราะเมื่อระบบนิเวศเปลี่ยนแปลงไป ก็ย่อมกระทบจำนวนปลาที่ลดน้อยลงตามไปด้วย

บ้านปากยาม หมู่บ้านเล็กๆใน อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ตั้งอยู่บริเวณปากเเม่น้ำยาม ซึ่งไหลมาบรรจบกับเเม่น้ำสงคราม ที่ตั้งของหมู่บ้านมีลักษณะเป็นโนนทามหรือดอนทาม ในฤดูน้ำหลาก พื้นที่โดยรอบหมู่บ้านจะถูกน้ำท่วม จนมีสภาพคล้ายเกาะกลางเเม่น้ำ บุญจันทร์ สุขเจริญ ผู้ใหญ่บ้านปากยาม ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จึงระบุว่า ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถทำนาในฤดูทำนาได้ เพราะวิถีชีวิตของชาวบ้านต้องพึ่งพาเเม่น้ำสงคราม เเละพื้นที่ที่มีต้นไม้ขึ้นริมแม่น้่ำ หรือที่เรียกว่า ป่าบุ่งป่าทาม ซึ่งใช้เป็นเเหล่งอาหารและแหล่งทำมาหากิน

<"">
<"">

 

เเม่น้ำสงคราม มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาภูพาน ในเขต จ.สกลนคร ไหลผ่าน จ.อุดรธานี หนองคาย เเละมาบรรจบกับเเม่น้ำโขงที่ จ.นครพนม มีความยาวกว่า 400 กิโลเมตร เเม่น้ำสงคราม จึงมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของชาวอีสานตอนเหนืออย่างมาก

ระดับน้ำที่ลดลงต่ำกว่าทุกๆปี จึงกลายเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวลุ่มน้ำสงครามในขณะนี้ โดยเฉพาะชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมง ซึ่งศุภฤกษ์ ชนะมาร ชาวประมงบ้านปากยาม อ.ศรีสงคราม ระบุว่าตอนนี้จับปลาได้น้อย ทำให้มีรายได้ไม่ต่อเนื่อง ซึ่งเเตกต่างกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่เเล้ว ที่มีปลาชุกชุมมาก

การสร้างเขื่อนเเละกั้นประตูระบายน้ำในเเม่น้ำสาขาต่างๆ เป็นข้อสันนิฐานที่ชาวบ้าน เชื่อว่าอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ระดับน้ำลดลง ส่งผลให้ปลามีจำนวนน้อยลงตามไปด้วย สอดคล้องกับข้อมูลของ สันติภาพ ศิริวัฒนไพบูลย์ อ.ประจำสาขาวิทยาศาสตร์สิ่งเเวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ ม.ราชภัฏอุดรธานี นักวิจัยระบบนิเวศด้านสิ่งเเวดล้อม ที่วิเคราะห์ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่การสร้างสิ่งปลูกสร้างขวางลำน้ำ ทำให้ระบบนิเวศเเละระดับน้ำในเเม่น้ำสงครามเปลี่ยนแปลง

<"">
<"">

 

ข้อมูลจากงานวิจัยไทบ้าน โดยเครือข่ายนักวิจัยไทบ้านลุ่มน้ำสงคราม ระบุว่า บริเวณป่าบุ่งป่าทามตลอดลุ่มน้ำ มีระบบนิเวศย่อยถึง 28 ระบบ เหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของพันธ์ปลากว่า 124 ชนิด ที่สำคัญมีพรรณพืชในป่าทามที่ใช้ประโยชน์ได้ถึง 208 ชนิด เป็นเเหล่งน้ำที่สามารถทำการประมงได้ตลอดทั้งปี
 
ปลาจากเเม่น้ำสงคราม จึงเป็นที่รู้จักของพ่อค้าคนกลางเเละผู้บริโภค เเละยังเป็นสินค้าขึ้นชื่อของชาวจังหวัดนครพนม ทำให้ชาวประมง มีรายได้ครอบครัวละประมาณ 100,000-200,000 บาทต่อฤดูกาล เเต่ปัจจุบันรายได้ลดน้อยลงเหลือ 30,000-50,000 บาทต่อฤดูกาลเท่านั้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง