พายุกับวงการบันเทิง 
ภาพเทพีเสรีภาพถูกคลื่นยักษ์ถาโถม จนถึงฉากน้ำทะเลท่วมถนนทุกสายในนิวยอร์ก คือความสะพรึ่งกลัวที่ผู้ชมอเมริกันเคยสัมผัสใน The Day After Tomorrow ผลงานภาพยนตร์พิบัติภัยปี 2004 ที่ปลุกกระแสหนังภัยพิบัติจากสภาวะโลกร้อนก่อนสารคดีดังอย่าง An Inconvenient Truth ออกฉายหลายปี แต่ฝันร้ายที่เคยอยู่ในหนังกลับมาเกิดขึ้นจริงในวันนี้ หลังพายุเฮอร์ริเคนแซนดี้เข้าถล่มฝรั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนนับล้านในการย้ายที่อยู่และความเสียหายทางเศษรฐกิจกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ โดยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีแฟนหนังมากมายตัดต่อภาพเกี่ยวกับภัยพิบัติในภาพยนตร์ที่คุ้นเคยเผยแพร่ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างแพร่หลาย
การสร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมด้วยการจำลองฉากพายุร้ายมีมาตั้งแต่ยุคแรกของการสร้างภาพยนตร์ ทั้งที่ดูไม่สมจริงอย่างตอนที่บ้านของโดโรธีถูกพัดปลิวไปทั้งหลังจากพายุทอร์นาโดใน The Wizard of Oz หนังปี 1939 หรือหากสมจริงเกินไปในหนังเงียบ Noah's Ark สิ่งที่ตามมาคือการเสี่ยงชีวิตของทีมงาน เมื่อตัวประกอบของเรื่องนี้ต้องขาขาด และจมน้ำเสียชีวิตถึง 3 ราย ขณะที่นักแสดงนำสาวเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะอาการปอดบวม
ในยุคหลังที่สเปเชียล เอฟเฟคในภาพยนตร์พัฒนามากขึ้น การสร้างหนังมหันตภัยมีความปลอดภัยและดูสมจริงยิ่งขึ้น ทั้งผลงานที่สร้างจากเรื่องจริงอย่าง The Perfect Storm และ The White Squall ที่เล่าถึงชะตากรรมของชาวเรือที่กำลังเผชิญกับพายุร้าย จนถึงหนังวาตภัยที่สร้างจากจินตนาการทั้ง Twister ที่เทคนิคสร้างพายุทอร์นาโดยังติดตาแฟนหนังจนถึงวันนี้ ขณะที่บ่อยครั้งที่ฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ กลายเป็นสถานที่ประสบภัยจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เห็นได้จาก Deep Impact หรือ 2012 ที่กล่าวถึงวันจุดจบของโลกตามคำทำนายของชาวมายัน
การมาถึงของเฮอร์ริเคนแซนดี้ ทำให้ชาวอเมริกันวันนี้ได้เห็นความเสียหายจากพายุของจริงได้จากหน้าจอโทรทัศน์ที่เกาะติดสถานการณ์ดังกล่าว 24 ชั่วโมง ความเสียหายส่งผลกระทบต่อธุรกิจในวงการบันเทิงมากมาย ทั้งการหยุดการแสดงของละครบรอดเวย์ในนิวยอร์ก รายการโทรทัศน์ชื่อดังยุติการถ่ายทำ นำไปสู่การยุติการถ่ายทำของหนังดังอย่าง Noah's Ark ที่ถ่ายทำในนิวยอร์ก ขณะที่เรือ HMS Bounty ที่เคยใช้ถ่ายทำในภาพยนตร์ดังอย่าง pirates of the caribbean ต้องอับปางนอกฝั่งนอร์ทแคโรไลนา ทำให้ลูกเรือ 16 รายสละเรือ และพบผู้เสียชีวิตล่าสุดแล้ว 1 ราย