เจ้าหน้าที่เริ่มเข้มงวดจับกุมน้ำมันเถื่อนภาคใต้อีกครั้ง
ปั๊มน้ำมันขนาดเล็ก และร้านขายน้ำมัน บริเวณริมถนนกาญจนวนิช ตั้งแต่อำเภอสะเดาจนถึงอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้ปิดให้บริการชั่วคราว หลังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มีคำสั่งให้ตำรวจท้องที่เข้มงวดในการจับกุมผู้ค้าน้ำมันเถื่อนอย่างจริงจัง
ขณะที่ไม่พบขบวนการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนด้วยรถกระบะดัดแปลงที่ขนผ่านด่านปาดังเบซาร์ ออกมาจากประเทศมาเลเซีย ในขณะนี้ หลังตำรวจภูธรปาดังเปซาร์ ได้ตรวจจับกุมอย่างเข้มงวด และ ส่งไปดำเนินคดีแล้วหลายรายด้วยกัน เช่นเดียวกับที่จังหวัดสตูล กลุ่มผู้ค้าน้ำมันไม่ได้นำน้ำมันเถื่อนออกมาวางขายริมถนนเช่นกัน จากการปราบปรามจับกุมอย่างจริงจัง ทำให้น้ำมันเถื่อนในพื้นที่จังหวัดหวัดสตูลเริ่มขาดตลาด
ส่วนคดีน้ำมันเถื่อนในจังหวัดสตูล หลังดีเอสไอส่งคดีให้ตำรวจภูธรควนโดน จังหวัดสตูล ดูแลของกลางจนทำให้น้ำมันเถื่อนของกลางหายไปกว่า 40,000 ลิตร และได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเอาผิดทางวินัยตำรวจระดับรองผู้กำกับ ไปจนถึงดาบตำรวจนั้น จนถึงขณะนี้การสอบสวนไม่มีความคืบหน้า แม้จะผ่านมาแล้วกว่า 1 เดือน หนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอ้างว่า ยังขาดพยานชี้เบาะแสโกดังเก็บน้ำมันเถื่อนที่ทำให้ของกลางสูญหาย จึงไม่สามารถสรุปผลสอบเสนอผู้บังคับบัญชาให้เอาผิดกับตำรวจที่เกี่ยวข้องได้