รอยเตอร์ระบุไทยมีอัตราก่ออาชกรรมจากปืนสูงที่สุดในเอเชีย
ประเทศไทยมีอัตราการก่ออาชญากรรมจากปืนสูงที่สุดในเอเชีย ทุก 100,000 คน จะถูกฆ่าด้วยอาวุธปืน 5.3 คน และประเทศไทยมีพลเมืองครอบครองปืนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มากกว่าประเทศที่มีชื่อด้านความรุนแรงอย่างฟิลิปินส์ ถึง 4 เท่า นี่เป็นส่วนหนึ่งในเนื้อหา ของบทความ เรื่องประเทศไทยเป็นมิตรลดลง แต่อาชญากรรมจากปืนเพิ่มขึ้น ของสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่วิจารณ์ และเสนอมุมมอง การครอบครองอาวุธปืนขึ้นในประเทศไทย ที่เกิดขึ้นง่าย โดยมีสาเหตุจากเจ้าหน้าที่รัฐร่วมทุจริตออกใบอนุญาต และประเด็นสำคัญคือ การที่ข้าราชการมีสิทธิ์ซื้อปืนที่มีส่วนลด หรือปืนสวัสดิการ ก่อนแจ้งหาย และนำไปขายให้ตลาดมืด
เลขทะเบียนปืน เป็นขั้นตอนแรกเมื่อปืนในโควตาปืนสวัสดิการที่สั่งจากโรงงานมาถึงประเทศไทย การนำปืนที่ทำเลขทะเบียนเสร็จ มายิงเก็บข้อมูลหัวกระสุนปืน เป็นขั้นตอนถัดมา เมื่อได้หัวกระสุน จะนำไปก็บข้อมูลร่องตำหนิเกลียวลำกล้อง และเข็มแทงชนวนของลูกกระสุนปืน ไว้เป็นประวัติ
ในขณะนี้มีปืนสวัสดิการ ของกรมการปกครองที่ทำประวัติการยิงหัวกระสุนไปแล้ว 20,000 กระบอก มีกฎหมายห้ามปืนเปลี่ยนมือภายใน 5 ปี แต่เพื่อเพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบ กรมการปกครองนำปะวัติการครอบครองปืนที่ได้รับใบอนุญาติ ทั้งปืนสวัสดิการ หรือ ปืนทั่วไป เข้าระบบอิเล็คทรอนิกส์นำร่อง 5 จังหวัดภาคกลาง เพื่อประโยชน์การสืบค้น การก่อเหตุอาชญากรรมด้วยอาวุธปืน ตรวจสอบขบวนการสวมสิทธิ์ในการซื้อปืนสวัสดิการ โดยเฉพาะปัญหาปืนเถื่อน
ข้อมูลจากกรมการปกครอง ยังระบุว่าปัจจุบันทั่วประเทศมีอาวุธปืนที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายจำนวนกว่า 6 ล้านกระบอก แต่มีการออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนทั่วราชอาณาจักรไม่ถึง 1,000 กระบอก แม้ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติพยายามกวาดล้างอาชญากรรมคดีที่เกี่ยวกับอาวุธปืน สามารถยึดปืนของกลางได้หลายกระบอก แต่ทั้งนี้ก็ยังมีคดีที่เกี่ยวข้องกับปืนอยู่ต่อเนื่อง เช่น ล่าสุดคือคดี คนร้ายขับรถประกบยิงรถวัยรุ่น บนถนนเทพารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ ถึงกว่า 40 นัด ที่มีการก่อเหตุอย่างอุกอาจท้าทายเจ้าหน้าที่รัฐ