สิงคโปร์ ART HUB อาเซียน 
ตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้เรียนรู้นอกตำรา นี่เป็นครั้งแรกของนักเรียนหลายคนจาก โรงเรียน Henry Park Primary School ที่ได้มาชมเสื้อผ้า เครื่องประดับครบชุดของชนเผ่าทางภาคเหนือของไทย ทั้งเครื่องแต่งกายม้ง และเย้า รวมทั้งเครื่องประดับ เครื่องเงินที่เป็นเอกลักษณ์ ที่จัดแสดงไว้คู่กับป้ายอธิบาย ตัวช่วยสำคัญในการเรียนรู้ ห้องชนชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Asian Civilization Museum ที่เน้นให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมชนกลุ่มน้อยภายในภูมิภาค จึงเป็นอีกมุมที่ได้รับความสนใจจากเยาวชนที่แวะเวียนมาเยือน
จดจ่อกับชิ้นงานจัดแสดงเพื่อสังเกต และจดรายละเอียดของเครื่องประดับชนเผ่าเท่าที่จะทำได้ เพราะ Nicole Lim และ Pearl Choo นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กำลังทำแบบฝึกหัดจากโจทย์สำคัญที่ครูให้หาวัฒนธรรมร่วม จากเครื่องประดับในทวีปเอเชียที่บ้างก็คล้าย หรือต่างกันไป
Nicole Lim วัย 12 ปี กล่าวว่า เป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่ได้เรียนรู้นอกสถานที่ไม่ใช่แค่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องเรียน การได้เห็นของจริงพร้อมทำแบบฝึกหัดทำให้จดจำเรื่องวัฒนธรรมของอาเซียนได้ดียิ่งขึ้น
15 ปีก่อน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เริ่มจัดแสดงชิ้นงานเกี่ยวกับอารยธรรมจีนเป็นหลัก ต่อมาได้นำผลงานศิลปะของประเทศที่เคยเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์สิงคโปร์มาจัดแสดงเพิ่ม ในปัจจุบันพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ สะสมผลงานของหลายประเทศในเอเชีย จัดแสดงทั้งในรูปแบบนิทรรศการถาวร และหมุนเวียน โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาเสริม อย่างการใช้คอมพิวเตอร์บรรยายเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย เช่น การบรรยายเรื่องศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนาในภูมิภาค
ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีความสำคัญยิ่งเมื่อใกล้เข้าสู่การเปิดตัวสู่อาเซียน สิงคโปร์ยิ่งเริ่มทำงานที่เน้นย้ำเป็นทวีคูณ โดยเชิญประเทศสมาชิกทั้งหลายมาจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนเพื่อให้ประชากรของตนเองได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับอาเซียนมากขึ้นไปอีก
ใจกลางเมืองสิงคโปร์ใกล้กับที่ตั้งของ Asian Civilization Museum ตึกใหญ่ทรงบริติชโคโลเนียล 2 ตึกซึ่งเป็นอาคารศาล และศาลาว่าการเดิมกำลังถูกปรับปรุงภายในให้เชื่อมต่อกันเพื่อเป็นศูนย์กลางทางศิลปะแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน
ทางด้านหลังนี้อยู่ไม่ไกลจากย่านธุรกิจรวมถึงแหล่งท่องเที่ยวศิลปะของสิงคโปร์ กำลังเป็นอาคารที่ก่อสร้างเป็น National Art Gallery ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเก็บสะสมงานศิลปะจากทั่วโลก เป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของประเทศเล็กๆ แห่งนี้เพื่อต้อนรับการเป็นประชาคมอาเซียน
เดิมอาคารเก่าแห่งนี้ เป็นที่ทำงานของนายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ ลีกวนยู ผู้เปิดประเทศให้ทันสมัยทัดเทียมนานาอารยประเทศ สิงคโปร์ต้องการให้สถานที่แห่งประวัติศาสตร์ ได้เป็นแหล่งเรียนรู้ต่อไปจึงใช้เวลากว่า 10 ปีในการวางแผนให้เป็นพื้นที่จัดแสดงให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมของสิงคโปร์เอง ไปจนถึงเอเชีย รัฐบาลใช้งบประมาณร่วม 600 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในการก่อสร้าง และงบประมาณอีกมหาศาลในการซื้อผลงานศิลปะชิ้นสำคัญจากทั่วโลกรวมทั้งจากประเทศไทย เพื่อแสดงถึงแสนยานุภาพของประเทศเล็กๆ ที่ใช้ศิลปวัฒนธรรมในการขับเคลื่อนประเทศ