ทิศทางเศรษฐกิจหลังเลือกตั้งสหรัฐฯ โอกาสเปลี่ยนแปลงที่ดี
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลแรกที่ถูกสื่อมวลชนถามถึงความรู้สึกหลังมีการทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยนอกจากนายกรัฐมนตรี จะส่งสาสน์ไปแสดงความยินดีกับนายบารัค โอบามา และยินดีกับ น.ส.ลัดดา หรือ แทมมี่ ดักเวิร์ธ ที่ชนะการเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 8 รัฐอิลลินอยส์ โดยนายกรัฐมนตรี มองว่า การที่ นายบารัค โอบามา ชนะการเลือกตั้งถือเป็นว่าผลดี ในการดำเนินนโยบายระหว่างไทย และสหรัฐฯซึ่งจะทำให้มีความต่อเนื่อง สอดคล้องกับ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ เห็นพ้องกันว่า 4 ปี จากนี้ไป ประธานาธิบดีโอบาม่า จะต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ
ด้าน รศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บอกว่า นโยบายงดเว้นการเก็บภาษี ครัวเรือนชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่อปีน้อยกว่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้ชนชั้นกลางมีรายได้มากขึ้น เกิดการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว จะส่งผลต่อการส่งออกไทย
ขณะที่ นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ในไทย กล่าวว่า ชัยชนะของประธานาธิบดีโอบาม่า ไม่ได้เหนือความคาดหมายของตลาด พร้อมประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยรวมถึงภูมิภาคถึงสิ้นปีจะอยู่ในภาวะประคับประคอง และการปรับฐาน ซึ่งจากนี้จะต้องจับตามองการดำเนินนโยบายสหรัฐฯ รวมถึงการแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป
ส่วนนายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการสำนักนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มองว่าทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีเสถียรภาพมากขึ้น
ด้านนายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า การทำหน้าที่ต่อเนื่องของโอบามา ทำให้นโยบายเศรษฐกิจที่ดำเนินการไว้เดินหน้าต่อได้ทันที โดยเฉพาะมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณ หรือ คิวอี3 ที่จะกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน การบริโภคภายในเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันกำลังซื้อของสหรัฐที่เพิ่มจะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ไม่ว่าจะเป็นยุโรป ญี่ปุ่น อาเซียน และไทย ที่จะส่งออกไปสหรัฐได้ดีขึ้น