หลายพื้นที่ภาคอีสานเผชิญสถานการณ์ภัยแล้ง
เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ซ่อมเครื่องสูบน้ำที่ชำรุดมาเกือบ 10 ปี เพื่อใช้สูบน้ำจากลำน้ำเซบกไปเลี้ยงต้นข้าวกว่า 1,500 ไร่ ซึ่งเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนน้ำจากภาวะฝนทิ้งช่วง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำรวจพบว่ามีนาข้าวที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำใน 10 อำเภอ เสียหายแล้วกว่า 65,000 ไร่
ส่วนชาวนาตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ รับจ้างเกี่ยวข้าวแทนการทำนาของตัวเอง เพื่อแลกกับค่าแรงวันละ 250 - 300 บาท เพราะนาข้าวได้รับความเสียหายจากภัยแล้ง
สถานการณ์ภัยแล้งที่ขยายวงกว้าง ทำให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง เตรียมงดส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ให้กับพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังหลังเดือนธันวาคมนี้ เพราะขณะนี้มีปริมาณน้ำในอ่างประมาณร้อยละ 50 ของระดับกักเก็บ เพื่อรักษาระบบนิเวศ และใช้ผลิตน้ำประปา
ส่วนปัญหาขาดแคลนน้ำทำนาในอำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา ทำให้พื้นที่กว่า 3,000 ไร่ ที่นี่ปลูกข้าวได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ขาดแหล่งน้ำทำการเกษตร ชาวนาจึงเรียกร้องให้กรมชลประทานสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำ น้ำปี้ ในจังหวัดพะเยา เพราะหากปล่อยให้แห้งแล้งจะทำให้เกษตรกรไม่มีอาชีพทำกิน
โครงการอ่างเก็บน้ำ น้ำปี้ ในจังหวัดพะเยา จะช่วยพื้นที่การเกษตรให้มีน้ำเพิ่มขึ้นกว่า 40,000 ไร่ และทำนาได้ปีละหลายครั้ง ซึ่งขณะนี้กำลังสำรวจพื้นที่ และศึกษาเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยคาดว่าอีก 2 ปี อาจจะก่อสร้างได้