แม้วันนี้ (14 พ.ย.) พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม จะไม่ได้แถลงด้วยตัวเอง แต่ก็มอบหมายให้โฆษกดำเนินการแทน โดยย้ำว่าการชุมนุมเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ได้ทำหนังสือแจ้งวัตถุประสงค์ของการกำหนดนัดชุมนุมถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว โดยระบุว่าการชุนุมจะไม่ยืดเยื้อเกินวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ย.นี้ และจะไม่เคลื่อนการชุมนุมไปปิดล้อมสถานที่ใด
มีการตั้งข้อสังเกตจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงเบื้องหลังการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม ถึงกลุ่มทุนกลุ่มเดิมที่เคยเคลื่อนไหว ตั้งแต่ปี 2549 ให้การสนับสนุนเงินทุนล้มล้างรัฐบาล 6,000 ล้านบาท และอยู่เบื้องหลังการชุมนุมครั้งนี้
ขณะที่กระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ทำงานด้านการข่าวกรณีมวลชนจะเคลื่อนมาชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยาม หากละเลยจะมีความผิดทางวินัย รวมถึงคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ย้ำความผิดให้ออกจากราชการทันทีหากมีนายทหารเข้าร่วมชุมนุมโดยไม่มีคำสั่ง
การชุมนุมทางการเมือง ที่มีกำหนดการไล่เลี่ยกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้รัฐสภา เตรียมช่องทางหลบหนีพิเศษให้ คณะรัฐมนตรี ส.ส. และเจ้าหน้าที่ หากเกิดกรณีฉุกเฉิน และมีการจัดกำลังตำรวจรัฐสภา 300 นาย ดูแลพื้นที่ด้านในรัฐสภา
ขณะที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมขอใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง คุมการชุมนุมทางการเมือง และเตรียมกำลังตำรวจ 50,000 นาย ดูแลการชุมนุมทางการเมือง และรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการสำคัญต่างๆ เช่น รัฐสภา เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน