รถไฟจังหวัดชายแดนใต้คึกคักอีกครา รฟท.เล็งปรับปรุงสถานีจุดเสี่ยง
แม้ฝันร้ายจะเกิดขึ้นกับขบวนรถไฟยะลา-สุไหงโกลก ซึ่งถูกกลอบวางระเบิดเมื่อ 18 พ.ย. ทำให้มีผู้เสียชีวิต ๓ คน และบาดเจ็บจำนวนมาก แต่การเปิดให้บริการวันที่สองบนขบวนรถไฟสายนี้ กลับมีผู้มาใช้บริการหนาแน่นจนแทบไม่มีที่นั่ง หลายคนบอกว่า แม้จะไม่มั่นใจ แต่หากเปรียบเทียบเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นกับรถไฟ กับการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง หรือรถส่วนตัว อาจมีความเสี่ยงน้อยกว่า และตั๋วรถไฟชั้น 3 ที่ให้บริการฟรี ก็ยังจำเป็นสำหรับผู้มีรายได้น้อย หรือคนในชุมชนห่างไกลที่รถโดยสารทั่วไป ไม่วิ่งผ่านหน้าบ้าน ทำให้รถไฟจึงยังเป็นทางเลือกต้นๆของคนใน 3 จังหวัด ส่งผลให้การใช้บริการรถไฟขบวนท้องถิ่นที่นี้ มากกว่าการใช้บริการรถไฟของจังหวัดอื่นๆในภาคใต้
กล้องวงจรปิดเกือบสิบตัว รั้วลวดหนาม กำแพงกั้นระหว่างสถานี และกำลังของทหารมากกว่า 4 นาย เป็นมาตรการดูแลที่เข้มข้นเพื่อสร้างความอุ่นใจให้ผู้โดยสารที่มาใช้บริการที่สถานีรถไฟลาโละ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเคยเกิดเหตุคนร้ายจ่อยิงเจ้าหน้าที่ประจำสถานีเสียชีวิต 2 คน เมื่อปี 2549 และมาตรการเช่นนี้ทางการรถไฟเตรียมนำมาปรับใช้ตั้งแต่สถานีรถไฟบาลอ อ.รามัน จ.ยะลายาวไปจนถึงสถานีสุไหงโก-ลกที่มักเกิดเหตุความรุนแรงบ่อยครั้ง รวมถึงปรับปรุงเนินดินข้างทางที่เป็นจุดเสี่ยง ที่ต้องตัดให้กลายเป็นทางราบ เพื่อป้องกันการซุ่มยิง และขอความร่วมมือจากชุมชนริมทางรถไฟ ให้สอดส่องบุคคลต้องสงสัย ขณะที่การดูแลบุคลากรของการรถไฟจะให้นายสถานีทุกคนพักที่บ้านพักในเมือง แทนการพักในบ้านพักที่สถานีย่อย และในเวลากลางคืนมอบหมายให้หน่วยงานด้านความมั่นคงเข้ามาดูแลในเขตของสถานีรถไฟ
8 ปีที่ผ่านมา เส้นทางรถไฟจากสถานีรถไฟหาดใหญ่-สุไหงโกลก จ.นราธิวาส รวม 27 สถานี ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร ที่ เกิดความรุนแรงไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง ความเสียหายเกือบ 100 ล้านบาท มาตรการดูแลที่เพิ่มขึ้น เจ้าหน้าที่หวังเพียงว่าจะลดความสูญเสียให้มากที่สุดกับการทางรถไฟ