เปิด 4 ขั้นตอน ควบคุมผู้ชุมนุม-ผอ.ศอ.รส.ย้ำ ยึดหลักสากล ไร้รุนแรง
กระบอง โล่ หน้ากาก แก๊สน้ำตาชนิดขว้าง คือ อุปกรณ์การดูแล กลุ่มผู้ชุมนุมองค์การพิทักษ์สยาม ที่ ศูนย์รักษาความมั่นคงภายในราชอาญาจักร หรือศอ.รส. เตรียมนำมาให้ตำรวจใช้ควบคุมสถานการณ์หากเกิดความรุนแรง
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศอ.รส. ยืนยันตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม และจะไม่ใช้แก๊สน้ำตาชนิดยิง เนื่องจากป้องกันการเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการใช้ปืน หรือ เครื่องยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79
"เราปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งผมจะชี้แจงว่าเรามีขั้นตอนอย่างไร เพื่อให้ผู้ชุมนุม ชุมนุมได้อย่างถูกต้อง" พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผอ.ศอ.รส
สำหรับ แผนปฏิบัติที่ตำรวจนำมาปรับใช้ จะยึดจากแผนกรกฎ 52 แบ่งเป็น ขั้นตอนที่ 1 คือการขั้นเตรียมการก่อนการชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ด้านการข่าว จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจ เตรียมกำลังหน่วยหลักและหน่วยสนับสนุน ขั้นตอนที่ 2 ขั้นการเผชิญเหตุ เจ้าหน้าที่จะยึดหลัก รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในการปฏิบัติ นำกำลังรักษาความปลอดภัยสถานที่และบุคคลสำคัญ ชี้แจงทำความเข้าใจกับกับ แกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุม ดำรงการเจรจาต่อรองเพื่อคลี่คลายสถานการณ์
ขั้นตอนที่ 3 คือ การใช้กำลังเข้าคลี่คลายสถานการณ์ โดยตำรวจจะมีการแจ้งเตือนกับผู้ชุมนุม พร้อมๆกับการเจรจาต่อรอง และขั้นตอนที่ 4 คือ การดูแลฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด
ซึ่งในทุกขั้นตอน ผอ.ศอ.รส ยืนยัน ต้องเป็นไปตามหลักสากล เลือกวิธีการที่เบาที่สุด และเป็นอันตรายต่อผุ้ชุมนุมน้อยที่สุด ซึ่งหากผุ้ชุมนุมยุติความรุนแรงหรือลดระดับลงแล้ว เจ้าหน้าที่จะต้องยุติ ระดับกำลังด้วย
"หลักการคือ เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจะไม่ยืนติดกับฝูงชน จะต้องเว้นระยะห่าง ถ้าฝูงชนขยับเข้ามา เจ้าหน้าที่จะต้องผลักดันโดยใช้โล่ดันออกไประยะหนึ่ง แล้วถอยออกมา แล้วดัน แล้วถอยออกมา ถ้ายังดื้อดึง จะใช้แก๊สน้ำตา" พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา
สำหรับกำลังตำรวจ 112 กองร้อย จะนำมาใช้เพื่อดูแลสถานที่สำคัญ แบ่งเป็น ทำเนียบรัฐบาล 52 กองร้อย รัฐสภา 18 กองร้อย สวนจิตรลดา 12 กองร้อย ลานพระราชวังดุสิตหรือลานพระบรมรูปทรงม้า 9 กองร้อย โรงพยาบาลศิริราช 2 กองร้อย กองบัญชาการตำรวจนครบาล 4 กองร้อย บ้านบุคคลสำคัญ 2 กองร้อย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 กองร้อย และอีก 11 กองร้อยเป็นกำลังตำรวจที่ใช้ในการเพื่อเตรียมพร้อมหากมีสถานการณ์เกิดขึ้นก็สามารถเรียกใช้ได้ทันที และมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า 4 แห่ง ทั้งควบคุมและประเมินสถานการณ์ คือ ที่ทำเนียบรัฐบาล อาคารรัฐสภาฯ สนามเสือป่า และกองบังคับการตำรวจจราจร