นักวิชาการ-นักกฎหมาย เสนอปรับกฎหมายความรุนแรงในครอบครัว ให้ครอบคลุมมากขึ้น
เครือข่ายภาคประชาชนด้านเด็ก สตรี และครอบครัว ยื่นขอเรียกร้องต่อ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษา สบ.10 ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ปี 2550 อย่างจริงจัง แม้กฎหมายนี้จะใช้มาแล้ว 5 ปี แต่ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มขึ้น จาก 23,000 คนในปี 2552 เป็น 27,000 คน ในปี 2554 สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการไม่รู้ข้อกฎหมาย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ละเลยการปฏิบัติ
จรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่ากฎหมานฉบับนี้มีข้อบกพร่องในหลายมาตรา อาทิ ยังไม่มีกลไกเยียวยาสภาพจิตใจผู้ถูกกระทำทำให้ผู้ถูกกระทำไม่กล้าแสดงตัว หรือเอาผิดกับคนในครอบครัว การกำหนดนิยามความรุนแรงในครอบครัวที่กว้างเกินไป ทำให้เกิดปัญหาการตีความกฎหมาย อีกทั้งเจ้าหน้าที่ต้องมีบทบาทในฟื้นฟูสภาพจิตใจ มากกว่าการมุ่งดำเนินคดีอาญา
"ในทางกฎหมาย เราก็คิดว่าจะต้องเขียนว่า แม้ไม่ร้องทุกข์กระบวนการทางอาญายังดำเนินไม่ได้ แต่ให้กระบวนการช่วยเหลือทางสังคม ทางการเยียวยาผู้ถูกกระทำ และการหาทางช่วยแก้ปัญหาของครอบครัวเดินไปได้ ตามกลไกของกฎหมายนี้ แต่ตอนจัดทำกฎหมายครั้งแรก กฎหมายมันไปไม่ถึงว่า ผู้เสียหายจะไม่ใช้สิทธิ์"จรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
กีระณา สุมาวงศ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา บอกว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการฯ จัดทำข้อเสนอปรับแก้กฏหมายในบางมาตรา เช่น มาตรา 3 คำนิยามความรุนแรงในครอบครัว และบุคคลในครอบครัว ที่กำหนดไว้ไม่ครอบคลุม เจ้าหน้าที่มีปัญหาด้านการตีความ จึงควรพิจารณาเนื้อหารองรับการปฏิบัติงานจริง เพิ่มการคุ้มครองผู้สูงอายุ ปู่ ย่า ตา ยาย มาตรา 4 การกำหนดโทษผู้กระทำความรุนแรงในครอบครัว ที่เห็นว่า บางกรณีผู้กระทำเป็นเด็ก ต้องนำกฎหมายอื่นที่ครอบคลุมมาพิจารณา เช่น กฎหมายคุ้มครองเด็ก ปี 2546
ส่วนมาตรา 5 การแจ้งต่อเจ้าหน้าที่หากพบการกระทำรุนแรงในครอบครัว ก็ไม่ระบุให้ชัดเจนว่าหน่วยงานใดรับผิดชอบ ขณะที่มาตรา 8 การสอบสวนกรณีความผิด ที่ต้องประกอบด้วยจิตแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ แต่ไม่ถูกนำไปปฏิบัติ ผู้บังคับใช้กฎหมายไม่เชี่ยวชาญด้านความรุนแรง จึงใช้กฎหมายอาญาบังคับใช้เพียงอย่างเดียว
"พอไปหาตำรวจ บอกตำรวจว่า พี่..ผมโดนกระทำในบ้านของคู่รักผม หรือว่า แม่สามีตีอะไรแบบนี้ เอ๊ะ ตียังไง ตีตรงไหน ตำรวจอาจจะไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นมันจะมีการบ่ายเบี่ยงไม่ให้เกิดการมีความยุติธรรม ก็ถือว่ากฎหมายนี้ก็ไม่มีประสิทธิภาพ" กีระณา สุมาวงศ์ รองประธาน กมธ.การพัฒนาสังคมฯ วุฒิสภา
สำหรับมุมมองภาคประชาชน ยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องไม่ละเลยในการให้ความช่วยเหลือผู้ถูกกระทำรุนแรง เสนอให้มีพนักงานสอบสวนหญิงทุกสถานนีตำรวจ เพื่อสะดวกต่อการรับแจ้งสำหรับกรณีของสตรี