ผู้ชุมนุมกลุ่ม อพส.ปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยามพยายามอธิบายเหตุผลที่ผู้ชุมนุม นำโดย ร.ต.แซมดิน เลิศบุษย์ แกนนำส่วนกองทัพธรรมต้องพยายามที่จะฝ่าแนวสกัดกั้นของตำรวจที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์เข้ามา โดยอ้างว่าเป็นเพราะว่าต้องการให้การชุมนุมนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดพื้นที่
พล.อ.บุญเลิศ เดินทางไปตรวจสอบ และทักทายกับผู้ชุมนุมที่อยู่สะพานมัฆวานรังสรรค์ หลังจากเกิดเหตุการเผชิญหน้าระหว่างผู้ชุมนุม กับตำรวจ เพราะว่าผู้ชุมนุมพยายามขอผ่านด่านที่ตำรวจสกัดกั้นไว้ พร้อมพยายามรื้อรั้วลวดหนาม และแท่งแบริเออร์ พร้อมนำรถดัน ทำให้ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาชนิดขว้างกับผู้ชุมนุม
จากนั้น พล.อ.บุญเลิศ ได้ขึ้นเวทีอธิบายกับผู้ชุมนุมถึงสาเหตุที่ต้องพยายามฝ่าแนวกั้นที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพราะว่าอ้างว่าการสกัดกั้นของตำรวจ ทำให้เกิดการแยกผู้ชุมนุมออกเป็นหลายส่วน ไม่ประสานกับเวทีปราศรัย และอ้างด้วยว่าการชุมนุมนั้นมีเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่ไปถึงบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ จึงต้องมีการพยายามที่จะขอผ่านพื้นที่ดังกล่าว
และล่าสุด ยังให้สมณะโพธิรักษ์พยายามเจรจากับทางตำรวจอยู่ เพื่อที่จะขอเปิดพื้นที่บริเวณดังกล่าวด้วย และล่าสุดองค์การพิทักษ์สยามถือว่ายังคงมีการปราศรัยอยู่ที่บริเวณเวทีลานพระบรมรูปทรงม้าอย่างต่อเนื่อง โดยการปราศรัยบนเวทียังไม่มีการประกาศจุดยืน หรือว่าทิศทางในการชุมนุมในวันนี้แต่อย่างใด
เพียงแต่ พล.อ.บุญเลิศ นั้นมีการพูดถึง โดยอ้างว่าจะประสานขอกำลังทหารเข้ามาร่วมชุมนุม หากมีการปะทะกันเกิดขึ้นอีก โดยพื้นที่ชุมนุมในขณะนี้ถือว่าที่บริเวณหน้าลานพระบรมรูปทรงม้าไปจนถึงแยกมิสกวันนั้นค่อนข้างที่จะแน่นแล้ว รวมถึงผู้ชุมนุมที่ขยายพื้นที่ไปที่บริเวณถึงเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์
ขณะนี้ ถือว่าสถานการณ์โดยทั่วไปกลับสู่สภาวะปกติ ไม่มีการเผชิญหน้ากันเกิดขึ้นอีก แต่ว่าดูเหมือนว่าอารมณ์ในการชุมนุมนั้นค่อนข้างที่จะคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ