นายเสณิต เจตนาวิชโมกช์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคเหนือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เผยว่าขอให้ปชช.ใช้โคมลอยที่ได้มาตรฐาน เพื่อลดผลกระทบที่อาจมีผลต่อการส่งจ่ายกระแสไฟฟ้า และอุบัติเหตุทั้งด้านอัคคีภัยและด้านการบิน ซึ่งราคาจำหน่ายของโคมที่ได้มาตรฐานและมีราคาเดียวกับโคมลอยแบบเดิม
อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการส่งจ่ายกระแสไฟฟ้า หากเกิดปัญหาโคมลอยตกลงพาดกับอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง กฟผ. ได้ติดตั้งต่าข่ายป้องกันโคมลอยตกลงหม้อแปลงที่สถานีไฟฟ้าแรงสูง เชียงใหม่1,เชียงใหม่2, ซึ่งเป็นสถานีไฟฟ้าแรงสูง ที่เสี่ยงต่อการตกโคมลอย และมีการเตรียมความพร้อมพนง.ประจำสถานีฯ ตลอดช่วงเทศกาลวันลอยกระทง
นายเสณิต กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทงของทุกปีในพื้นที่จ.เชียงใหม่มีการปล่อยโคมลอยเพื่อเป็นพุทธบูชาในช่วงเทศกาลยี่เป็งเป็นจำนวนมาก และมีแนวน้อมที่จะเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งส่งผลกระทบทำให้เกิดไฟฟ้าดับ เนื่องจากโคมลอยที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน ตกลงพาดสายไฟหรือตกพาดกับอุปกรณ์ไปไฟฟ้า ในสถานีไฟฟ้าแรงสูง นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบให้เกิดอัคคีภัยสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน และหากโคมลอยเข้ามาในรัศมีเส้นการบินอาจทำให้อากาศยานเกิดอุบัติเหตุได้
นายเสณิต กล่าวว่า สำหรับผลกระทบที่มีต่อการส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าจากสถิติไฟฟ้าดับเนื่องจากโคมลอยในจ.เชียงใหม่ปี 2552 พบว่า มีไฟฟ้าดับ จำนวน 24 ครั้ง ปี 2553 จำนวน 22 ครั้ง และปี 2554 จำนวน 30 ครั้ง และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว กฟผ.ร่วมกับ กฟภ.และธุดงคสถานล้านนา อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เป็นสถานที่ปล่อยโคมลอยมากที่สุดในประเทศ ได้รณรงค์ให้ผู้ที่ผลิตโคมลอยหันมาผลิตโคมที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน มผช.808/2552 แทนโคมลอยรูปแบบเดิม