สถานการณ์ตึงเครียดในอียิปต์ยังคงดำเนินต่อไป

ความตึงเครียดในประเทศอียิปต์ยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าประธานาธิบดีจะพยายามแก้ไขวิกฤตในประเทศ หลังการประกาศกฤษฎีกาที่ทำให้เขามีอำนาจเหนือการตรวจสอบ และถ่วงดุลย์ของฝ่ายนิติบัญญัติ และตุลาการ แต่ไม่ได้ทำให้สถานการณ์การประท้วงสงบลง

ผู้ประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ของอียิปต์ ยังคงชุมนุมบริเวณจตุรัสตารีห์ จุดเริ่มต้นของการต่อสู้กับอำนาจเผด็จการจนทำให้นายมอร์ซีได้ขึ้นสู่ตำแหน่ง ซึ่งผู้ชุมนุมเลือกที่จะใช้สถานที่เดียวกันนี้ ในการแสดงความไม่พอใจหลังจากที่ประธานาธิบดี ประกาศกฤษฎีกาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ให้คำสั่งประธานาธิบดีไม่สามารถล้มล้างได้ในทางกฎหมาย จนกว่าจะได้สภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่

การรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงเหนียวแน่น แม้จะมีความพยายามจากตำรวจ ในการสลายการชุมนุม และมีการยิงแก๊สน้ำตารายวัน ซึ่งผู้ประท้วงก็ระดมขว้างก้อนหินตอบโต้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายร้อยคนนับตั้งแต่การชุมนุมเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันศุกร์ รวมทั้งเดินหน้าการชุมนุมใหญ่ในวันนี้ เพื่อโค่นล้มนายมอร์ซี เพราะมองว่าการประกาศกฤษฎีกาดังกล่าว เป็นหนทางเผด็จการ รวมทั้งอาจทำให้อียิปต์กลายเป็นรัฐอิสลามที่ใช้กฎหมายอิสลามปกครองตามแนวทางที่กลุ่มภราดรมุสลิมที่เป็นกลุ่มผู้สนับสนุนหลักของนายมอร์ซีต้องการ

ก่อนหน้านี้ มีความกังวลว่าจะเกิดความรุนแรงระหว่างการประท้วง เพราะกลุ่มภราดรมุสลิมนัดชุมนุมใหญ่วันนี้เช่นกัน แต่ยกเลิกไปในที่สุด โดยให้เหตุผลว่าเพื่อลดความเสี่ยงจะเกิดความรุนแรงระหว่างกลุ่มหนุน และกลุ่มต้าน

นอกจากนี้ ตัวผู้นำอียิปต์เองก็พยายามบรรเทาความตึงเครียดในประเทศด้วยการหารือร่วมกับคณะผู้พิพากษาอาวุโสนานถึง 5 ชั่วโมง เพื่อชี้แจงว่าเขาปฏิบัติตามอำนาจที่มีอยู่ ในฐานที่เป็นผู้มีสิทธิในการออกกฎหมายเพียงหนึ่งเดียวของประเทศ ณ ขณะนี้ เนื่องจากอียิปต์ยังไม่มีสภาผู้แทนราษฎร และมีเพียงสภาร่างรัฐธรรมนูญ

ดังนั้น การออกประกาศกฤษฎีกานี้ จึงเป็นการปกป้องสถาบันต่างๆ ของประเทศ และเขายังเคารพต่ออิสระของอำนาจยุติธรรม พร้อมบอกว่าจะจำกัดการใช้อำนาจตามกฤษฎีกา ไว้เพียงเรื่องที่เกี่ยวข้องความมั่นคงของประเทศ เช่น การประกาศสงคราม การประกาศกฏอัยการศึก หรือการยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับต่างประเทศ โดยจะไม่ใช้ในเรื่องการบริหาร อย่างไรก็ตาม ผู้นำอียิปต์ยังคงยืนยันจะไม่ยกเลิกกฤษฎีกานี้ แม้จะมีเสียงคัดค้านรอบด้าน