แนะศธ.จัดการเรียน 3 จว.ภาคใต้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ท้องถิ่น
เสียงท่องตำราเรียน ดังก้องไปทั่วโรงเรียนบ้านท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี อีกครั้ง หลังต้องหยุดเรียนไปนานกว่า 1 สัปดาห์ เพราะนักเรียนต่างเฝ้ารอวันเปิดเรียน โรงเรียนในจังหวัดปัตตานีทั้งหมดกว่า 300 โรงหยุดการเรียนการสอนตามมติสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้หลังนางนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้โรงเรียนบ้านท่ากำชำมีครู 8 คน หลังนางนันทนาเสียชีวิตครูอีก 3 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงได้ขอย้ายออกไปช่วยราชการนอกพื้นที่เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัยทำให้ทั้งโรงเรียนมีครูเพียง 4 คน โอกาสในการเรียนหนังสือของนักเรียนจึงลดน้อยลงไปอีก
โดยผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่อยู่ในระดับต่ำ จึงมีเสียงร้องให้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการหยุดการเรียนการสอน โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งไม่ได้เกิดเหตุรุนแรงโดยตรง เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน
นายรุ่ง แก้วแดง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอให้ดึงชุมชนโดยรอบเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนมากขึ้น เพื่อให้ชุมชนเป็นเกราะช่วยดูแลความปลอดภัยครู
โรงเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีทั้งหมด 1,153 โรงเรียน ซึ่งผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาเกือบทุกกลุ่มสาระอยู่ในระดับต่ำยกเว้นวิชาภาษาอังกฤษซึ่งอยู่ในระดับที่ดี เนื่องจากภาษาอังกฤษมีลักษณะการเขียนคล้ายกับอักษรรูมี ซึ่งเป็นตัวอักษรที่ใช้เขียนภาษามาลายูที่ประชาชนในพื้นที่ใช้สื่อสารในชีวิตประจำวัน จึงแนะนำให้กระทรวงศึกษาธิการจัดการเรียนการสอนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของท้องถิ่น