บทบาทของ
ทันทีที่มาถึงบ้าน 2 พี่น้อง ต้องสู้ และต้องหนึ่ง จะรีบนำการบ้านมาให้ พ่อตู่ หรือ วีระยุทธ เลิศสุดวิชัย สอนให้ เด็กทั้ง
2 คน จะรีบทำการบ้าน ทบทวนบทเรียนให้เสร็จอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทั้งคู่ จะได้ร่วมกันฝึกซ้อมไวโอลีน ที่มีพ่อคอยแนะนำอย่างใกล้ชิด หลังจากนั้น ก็จะใช้เวลาไปกับงานศิลปะ การวาดภาพ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ลูกทั้ง 2 คน ชื่นชอบ
วีระยุทธ เล่าว่า การดูแลลูกตั้งแต่เล็กจนโต เป็นหน้าที่หลักของเขา การเป็นศิลปิน นักเขียน ทำให้มีเวลาอยู่กับลูกมากกว่าภรรยาที่มีอาชีพสื่อมวลชนและต้องออกทำงานนอกบ้านทุกวัน จึงพยายามสอดแทรกแนวคิดทางศิลปะให้กับลูกๆ การปลูกฝังกิจกรรมเหล่านี้ ก็ช่วยให้ลูกของเขามีสมาธิ ส่งผลดีต่อการเรียนและการใช้ชีวิตประจำวัน วีระยุทธ ยอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ชาย ต้องทำหน้าที่นี้ ช่วงแรกๆ รู้สึกเหนื่อยและท้อ แต่เพื่อครอบครัวทำให้ต้องยอมเสียสละ แม้ต้องแลกด้วยหน้าที่การงานก็คุ้มค่า เพราะได้เลี้ยงดูสั่งสอนลูกด้วยตัวเอง
แม้จะแบ่งบทบาทหน้าที่การทำงาน รวมถึงการดูแลลูกกันอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่วีระยุทธ อยากฝากไปถึงครอบครัวอื่นๆ คือต้องมีความเข้าใจกัน ซึ่งทุกคนถือว่ามีส่วนสำคัญที่จะให้ครอบครัวสมบูรณ์แบบ การปรับบทบาทของผู้ชายเพื่อมาดูแลลูก
เป็นสถานการณ์ในสังคมไทย
ขณะที่ฐาณิชชา ลิ้มพานิชผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว มองว่า เกิดขึ้นมาตลอดในรอบ 5-6 ปี เนื่องจากปัจจัยทางสังคม เศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป หน้าที่เลี้ยงลูกของสามีจึงช่วยแบ่งเบาภาระของภรรยาได้อย่างมาก และสัญชาตญาณความเป็นพ่อก็ช่วยให้พฤติกรรมหลายอย่างของผู้ชายต้องเปลี่ยนไป เพื่อทำหน้าที่ดูแลลูกให้ดีที่สุด
นอกจากนี้ ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ยังฝากให้ครอบครัวไม่ควรมองบทบาทหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเป็นของคนใดคนหนึ่ง พ่อ แม่ ต้องเห็นอกเห็นใจกัน ที่สำคัญคือต้องปรับทัศนคติ เพื่อนำไปสู่การมีครอบครัวที่อบอุ่น ท่ามกลางปัญหาทางสังคมที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้