งานรำลึกวันอาชูรอ
กว่าชั่วโมงที่ขบวนแห่แสดงความอาลัยในฮูเซ็น อิบนิอะลี ผู้นำคนสำคัญ ที่ถูกทารุณกรรมและถูกสังหาร พร้อมกับบริวารรวม 72 คน ณ แผ่นดินกัรบะลาอ์ เวียนไปรอบย่านสำคัญ บนถนนสี่พระยาและถนนสุรวงศ์ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์วันอาชูรอ ตามประวัติศาสตร์ศาสนาอิสลาม
แม้ล่วงมากว่า 1,300 ปี แต่ศรัทธาในศาสนาและเรื่องราววีรชน ที่ได้ชื่อว่าเป็นหลานของศาสดามูฮัมหมัด ยังคงเล่าผ่านงานอะซาดารี ซัยยิดุชชุฮะดา อิมาม อุซัยน์ ซึ่งตัวแทนมุสลิมนิกายชีอะห์จากเกือบ 10 ชุมชน ตลอดจนชาวอินเดียและปากีสถานที่มาพำนักในไทย ร่วมกันทำกิจกรรมมา 6 ปีแล้ว
ทุกปีต้นเดือนแรกของฮิจญ์เราะห์ศักราช นับเดือนแบบอิสลาม มุสลิมชีอะห์ทั่วโลกจะร่วมกันจัดงานรำลึกถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมจากความเสีย สละของอิหม่ามฮุเซ็น ซึ่งการแต่งดำร่วมรำลึกในงานอะซาดารี บนถนนสุรวงศ์ในวันนี้เป็นอีกสัญลักษณ์ที่มุสลิมจากชุมชนต่างๆ แสดงออกถึงความศรัทธาและยกย่องในผู้นำของพวกเขา
มหะหร่ำเรียมคอยเคร่า ไม่เห็นเจ้าเศร้าเสียใจ ลูบอกโอ้อาลัย ลาลดล้ำกำศรวลเซ็น ความจากบทเห่เจ้าเซ็น พระราชนิพนธ์กาพย์เห่เรือในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 บันทึกถึงการตีอกชกตัวเอง แสดงความสูญเสียอาลัยในอิหม่ามฮูเซนและบริวาร การเล่าย้อนประวัติศาสตร์สลับการตีอกเคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะ เรียกว่า พิธีเต้นเจ้าเซ็น ที่ก่อนหน้านี้ 4 พื้นที่ชุมชนมุสลิมดั้งเดิมย่านฝั่งธนฯ ปฏิบัติตลอด 10 วันเมื่อเข้าเดือนมุฮัรรอม ต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยอยุธยา
เสนีย์ อากาหยี่ ผู้นำทางศาสนาของกุฎีเจริญพาศน์ ไม่เคยเว้นจากการเข้าร่วมพิธีสำคัญ ซึ่งงานรำลึกที่อิมามบาระเกาะฮ์ศอฮิบุซซะมาน เขตบางรัก ไม่เพียงแสดงความเชื่อที่สืบต่อกันมาเนิ่นนาน ยังทำให้คนนอกวัฒนธรรมแขกเจ้าเซ็นมีโอกาสได้สัมผัสวิถีศรัทธาอันแตกต่าง ที่แต่เดิมเคยเป็นพิธีหวงห้าม
ทุกปีมุสลิมนิกายชีอะห์ จะจัดพิธีอาชูรอเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สูญเสียครั้งนั้น โดยแสดงออกด้วยเครื่องแห่ ตบอก ร้องไห้ ลุยไฟ และควั่นหัวเป็นการไว้อาลัยสูงสุด เพื่อน้อมรับความเจ็บปวดไว้ในกายใจ แม้งานอะซาดารีอิหม่ามฮูเซ็นในครั้งนี้จะทำอย่างเรียบง่าย แต่ก็มีความหมายไม่แตกต่าง หวังสร้างความเข้าใจในวัฒนธรรมความเชื่อหลากหลาย และปรารถนาในสันติสุขเช่นเดียวกัน