ขณะที่ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ ยืนยันว่า พ.ต.ท.ททักษิณ ใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญรับรองไม่ต่างจากประชาชนทั่วไป หรือ แม้แต่ผู้หลบหนีคดีคนอื่น ๆ เช่น นายวัฒนา อัศวเหม นายสมชาย คุณปลื้ม ต่างก็เคยให้สัมภาษณ์สื่อเช่นกัน
ระหว่างการประชุม ครม. หรือ หลังเสร็จสิ้นการประชุม น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ ยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้หารือ หรือตำหนิ กรณีสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ ช่อง 11 ถ่ายทอดสดการแข่งขันศึกมวยไทย จากเมืองมาเก๊า ประเทศจีน โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นประธานกล่าวเปิดการแข่งขันและยังใช้โอกาสนี้กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
น.ส.ศันสนีย์ ชี้แจงว่า การถ่ายทอดสดไม่ว่าจะเป็นสถานีไหนต้องอยู่ภายใต้ พ.ร.บ. วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ และเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญรับรองเหมือนประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังหยิบยกเปรียบเทียบกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ต่างกับนายวัฒนา อัศวเหม และนายสมชาย คุณปลื้ม ที่ให้สัมภาณ์สื่อ เพราะสาระสำคัญของคำพูดไม่ได้กระทบ หรือ ทำลายความมั่นคงของประเทศ
ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่า การปรากฎตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า พร้อมระบุว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะสื่อของรัฐ ควรทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน ซึ่งไม่ควรใช้เป็นช่องทางการแก้ตัวของผู้กระทำ จึงเรียกร้องให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา เตรียมเสนอเรื่องให้คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภคสอบข้อเท็จจริง เพราะเชื่อว่า เป็นยุทธการชิงพื้นที่ข่าวหวังผลทางการเมือง โดยใช้กลไกของรัฐเป็นเครื่องมือทางการเมือง ที่เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ขณะที่นายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการ ด้านนิติศาสตร์ ให้สัมภาษณ์พร้อมอ้างอิงประมวลกฎหมายอาญา ว่ากรณีการปรากฎตัวของพันตำรวจโททักษิณ ในฐานะผู้หลบหนีคดีในต่างประเทศผ่านสื่อของรัฐ เข้าข่ายความผิดตามาตรา 157 พร้อมเสนอแนะให้ยื่นฟ้อง ต่อ คณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อชี้พฤติการณ์ที่ชัดเจน