ธุรกิจส่งออก
คอนโดนกใน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชจำนวนกว่า 200 หลัง ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นแหล่งทำรังของนกอีแอ่น เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างงามให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งในแต่ละปีเจ้าของคอนโดรังนกในอำเภอปากพนังมีรายได้รวมกันเกือบ 2,000 ล้านบาท แต่ขณะนี้รายได้ดังกล่าวลดลงเป็นอย่างมาก เมื่อประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุด สั่งระงับการนำเข้ารังนกจากประเทศในแถบเอเชียทั้งหมดรวมถึงประเทศไทย หลังตรวจพบสารก่อมะเร็งในรังนกจากประเทศส่งออกประเทศหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ประเทศไทย
ชาวจีนเชื่อว่าการบริโภครังนกส่งผลดีต่อระบบทางเดินหายใจและสร้างความสมดุลในร่างกาย ด้วยประชากรกว่า 1,000 ล้านคน ประเทศจีนจึงเป็นตลาดส่งออกรังนกที่สำคัญส่วนรังนกอีแอ่นที่ได้จากคอนโดนก ผู้ประกอบการระบุว่าจะต้องนำมาผ่านกระบวนการอย่างละเอียด ทั้งการคัดคุณภาพ คัดแยกขนาด ก่อนทำความสะอาดอย่างประณีต เพราะแม้เพียงเศษฝุ่นผง หรือขนนกเพียงเล็กน้อยก็ไม่ให้เจือปนอยู่ในรังนกเพื่อสร้างความเชื่อถือแก่ลูกค้า
ในแต่ละปีผลผลิตรังนกอีแอ่นชนิดแห้งจากประเทศไทย ถูกส่งออกไปยังประเทศจีนราว 100,000 กิโลกรัม สร้างรายได้เป็นจำนวนเงินมหาศาล แต่หลังประเทศจีนสั่งระงับการนำเข้า ทางจังหวัดจึงเตรียมเข้ามาเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหาด้วยการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการคอนโดรังนก รวมถึงการออกใบรับรองคุณภาพรังนกเพื่อสร้างเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค
ก่อนหน้านี้ผู้ผลิตรังนกใน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เปรียบเสมือนเป็นธุรกิจนอกระบบไม่เป็นที่เปิดเผย เพราะผู้ประกอบการต่างมีผู้ซื้อและตลาดส่งออกเฉพาะตัว ซึ่งการเตรียมจัดระเบียบและปฏิรูประบบการผลิตรังนกและแผนการควบคุมคุณภาพรังนกอีแอ่นที่ได้จากคอนโดนก นอกจากเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่ประเทศผู้บริโภคแล้ว ยังจะทำให้ภาพธุรกิจคอนโดนกปรากฏชัดขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสรรพากรก็สามารถจัดเก็บภาษีสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวม หลังจากธุรกิจนี้เฟื่องฟูมาหลายสิบปี