"กรมป่าไม้"ยังไร้มาตรการป้องกันบุกรุกพื้นที่สวนปาล์มหมดสัมปทาน

19 ธ.ค. 55
13:47
149
Logo Thai PBS
"กรมป่าไม้"ยังไร้มาตรการป้องกันบุกรุกพื้นที่สวนปาล์มหมดสัมปทาน

แม้กรมป่าไม้จะผลักดันกลุ่มที่ยึดสวนปาล์มน้ำมันหมดอายุสัมปทานบ้านคลองหวายเล็ก อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ออกจากพื้นที่ได้แล้ว แต่ดินสวนปาล์มน้ำมันอีกเกือบ 30,000 ไร่ ที่จะหมดอายุสัมปทานภายใน 5 ปี ขณะนี้เริ่มเกิดปัญหาการเข้าไปยึดครองพื้นที่ของกลุ่มต่าง ๆ บางแล้ว

แม้เจ้าหน้าที่จะผลักดันกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน แล้วยึดคืนสวนปาล์มน้ำมันที่หมดอายุสัมปทานกว่า 1,000 ไร่ ที่บ้านคลองหวายเล็ก อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ โดยไม่เกิดการปะทะ แต่การเดินทางมาเก็บข้าวของของชาวบ้านวันนี้หลายคนไม่พอใจ เพราะทรัพย์สินบางส่วนสูญหาย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขอเก็บข้อมูลของชาวบ้าน ก่อนจะอนุญาตให้เก็บข้าวของเฉพาะในบ้านของตัวเอง เพื่อป้องกันการโจรกรรม ส่วนทรัพย์สินที่มีมูลค่าซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดไว้ เจ้าของสามารถแสดงสิทธิรับคืนได้ ขณะที่บ้านอีกเกือบ 1800 หลังหากเจ้าของไม่เคลื่อนย้าย จะแจ้งความฐานบุกรุกแล้วใช้กฎหมายป่าไม้มาตราที่ 25 เพื่อรื้อถอน

<"">
 
<"">

ต้นปาล์มน้ำมันนับหมื่นต้นที่ยังคงเก็บเกี่ยวได้อีกไม่ต่ำกว่า 5 - 10 ปี เป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้ ที่จะต้องกำหนดแนวทางจัดการให้ชัดเจนเพื่อป้องกันข้อครหา ทั้งแนวทางกั้นให้เป็นป่าชุมชน มอบหมายให้ทางจังหวัดเข้ามาจัดสรรที่ดินหรือปล่อยเช่า หรือเปิดให้มีการสัมปทาน แต่ใน 2 วิธีนี้ อาจกลายเป็นช่องทาง ทำให้กลุ่มทุนเข้ามาแสวงประโยชน์จากอัตราค่าเช่าราคาถูกของรัฐ และระหว่างที่ยังไม่มีความชัดเจนในแนวทางจัดการพื้นที่ กำลังเจ้าหน้าที่ก็อาจไม่มาพอที่จะป้องกันไม่ให้คนกลุ่มอื่นเข้ามาลักลอบเก็บผลปาล์มที่มีมูลค่าหลายแสนบาท

จากข้อมูลของสำนักงานจัดการป่าไม้ที่ 12 จังหวัดกระบี่ พบว่า มีเอกชนขอเช่าพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมัน 14 ราย รวมพื้นที่ 74,530 ไร่ และมี 10 รายที่กินพื้นที่กว่า 44,000 ไร่ หมดอายุสัมปทานไปแล้ว ส่วนพื้นที่อีกกว่า 29,000ไร่ จะหมดอายุสัมปทานภายในปี 2556 - 2560 โดยเฉพาะอำเภอเขาพนม ที่มีหุ้นส่วนเป็นชาวมาเลเซีย ซึ่งได้ขายพื้นที่และถอนหุ้นกลับไปแล้ว ทำให้กรมป่าไม้จะต้องมีแนวทางชัดเจนในการจัดการเพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอยกับที่เกิดขึ้นในสวนปาล์มบ้านคลองหวายเล็ก


ข่าวที่เกี่ยวข้อง