ผลประชามติอียิปต์รับร่างรัฐธรรมนูญ แม้ ปชช. มาใช้สิทธิเพียงร้อยละ 30
กลุ่มภราดรมุสลิมซึ่งหนุนหลังประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี และหนังสือพิมพ์ของทางการอียิปต์ รายงานผลเบื้องต้นประชามติรอบที่ 2 ที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ ว่าประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้การรับรองร่างรัฐธรรนูญกว่าร้อยละ 70 เมื่อรวมคะแนนการลงประชามติทั้ง 2 รอบ เท่ากับประชาชนที่ใช้สิทธิ ให้การรับรองร่างประชามติด้วยคะแนนร้อยละ 64 ส่วนร้อยละ 36 ไม่รับรองร่างรัฐธรรมนูญนี้ ขณะที่ผลอย่างเป็นทางการคาดจะประกาศในวันจันทร์(24 ธ.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากต้องตรวจสอบข้อร้องเรียนก่อน
ผลการลงประชามติที่ออกมา ก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่แตกต่างกันระหว่างผู้ที่สนับสนุน กับผู้ที่ต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คนที่สนับสนุนยินดีกับผลที่ออกมา และอ้างว่าการลงประชามติในครั้งนี้ บริสุทธิและโปร่งใส แต่สำหรับคนที่ไม่เห็นด้วย มองว่าทางการแก้ไขผลการลงประชามติ เพื่อให้รัฐธรรมนูญผ่านการรับรองโดยประชาชน
ผู้ที่เข้าสังเกตการณ์การลงประชามติจากฝ่ายค้าน อ้างว่าพบความผิดปกติ และการกระทำผิดขั้นตอนการลงประชามติทั้งสองรอบ เช่น บางหน่วยเปิดให้ลงคะแนนเกินเวลาปิดหีบ มีการรณรงค์นอกคูหา รวมทั้งข้อร้องเรียนความผิดปกติของการลงทะเบียนผู้มีสิทธิลงคะแนน จึงเรียกร้องให้มีการจัดการลงประชามติใหม่ แต่คณะกรรมการที่ดูแลการลงประชามติกลับอ้างว่า จากการตรวจสอบข้อร้องเรียน ไม่พบความผิดปกติใด ซึ่งหาก กกต.รับรองผล อียิปต์จะต้องจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ภายใน 2 เดือน
สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่ามีประชาชนออกมาใช้สิทธิในการลงประชามติในรอบที่ 2 เพียงร้อยละ 30 เช่นเดียวกับรอบแรก ที่มีคนออกมาใช้สิทธิค่อนข้างต่ำเช่นกัน แต่ผลการลงประชามติเบื้องต้น ชี้ให้เห็นกว่า กลุ่มภราดรมุสลิม สามารถจัดการให้ประชาชนที่สนับสนุนทางกลุ่ม เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ น่าจะยิ่งสร้างความแตกแยกในสังคมอียิปต์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากเสียงรับรองไม่มากพอ
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่มีการลงประชามติ ถูกคว่ำบาตรโดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นตัวแทนกลุ่มศาสนาคริสต์และกลุ่มเสรีนิยม ที่มองว่ากลุ่มมุสลิมพยายามที่จะครอบงำการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อคนที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศ แต่ไม่สนใจในสิทธิของกลุ่มผู้นับถือศาสนาคริสต์ ประมาณร้อยละ 10 ของประชากร รวมทั้งไม่ใส่ใจเสียงสะท้อนของกลุ่มเสรีนิยม สตรีและชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาชนทุกกลุ่มในประเทศอย่างแท้จริง และจะยิ่งเป็นชนวนการประท้วงรุนแรงยิ่งขึ้น
ขณะที่กลุ่มภราดรมุสลิมที่ผลักดันร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ อ้างว่าการรับรองร่างรัฐธรรมนูญนี้ เป็นกระบวนการสำคัญในการเปลี่ยนถ่ายสู่ความเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ หลังการปฏิวัติประชาชนโค่นอำนาจประธานาธิบดีเผด็จการฮอสนี มูบารัคได้สำเร็จเมื่อกว่า 2 ปีก่อน และจะทำให้ประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจที่เปราะบางของประเทศ