สื่อทำเนียบฯตั้งฉายานายกฯ "ปูกรรเชียง" - เฉลิม "กันชนตระกูลชิน" - สุกำพล "ตามล่าหน้าหล่อ"

การเมือง
26 ธ.ค. 55
10:55
275
Logo Thai PBS
สื่อทำเนียบฯตั้งฉายานายกฯ "ปูกรรเชียง" - เฉลิม "กันชนตระกูลชิน" - สุกำพล "ตามล่าหน้าหล่อ"

สื่อทำเนียบฯให้ฉายารัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" ประจำปี 2555 ฉายารัฐบาล : พี่คนแรก , ฉายานายกฯ "ปูกรรเชียง" , "เฉลิม" ได้รับฉายา "กันชนตระกูลชิน" ขณะที่ พล.อ.อ.สุกำพล ได้รับฉายา "ตามล่าหน้าหล่อ" ส่วน "ณัฐวุฒิ" ได้รับฉายา "ไพร่เทียม" ขณะที่ "ปลอดประสพ" ได้ฉายา "ปั้นน้ำเป็นทุน"

เป็นธรรมเนียมทุกปีที่สื่อมวลชน "สายทำเนียบรัฐบาล" จะตั้งฉายาให้กับรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี โดยดูจากองค์ประกอบด้านพฤติกรรม และ ผลงาน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล โดยในปีนี้มีฉายาดังนี้

ฉายารัฐบาลประจำปี 2555
ฉายารัฐบาล  :  พี่คนแรก

ความหมาย :  ล้อคำมาจากนโยบายที่ขึ้นชื่อของรัฐบาล เช่น รถคันแรก บ้านหลังแรก แต่ด้วยความที่รัฐบาลต้องทำงานบริหารประเทศ โดยมีเงาของพี่ชาย พี่สาว พาดผ่านเข้ามา รวมไปถึงปัญหาต่าง ๆ ก็มาจากเรื่องของพี่ ทั้งปัญหาของบ้านเมือง ข้าวของแพง ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ข้อครหาทุจริตไม่ได้รับการแก้ไข หรือ ชี้แจงอย่างชัดเจน เรียกได้ว่า เอะอะอะไรก็พี่ เรื่องของพี่ต้องมาก่อน ต้องมาเป็นอับดับแรก

วาทะแห่งปี
 27 พ.ย.55  “ คำว่าลอยตัวนั้นต่างกับคำว่าไม่รับผิดชอบ ”
 
นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา หลังถูกกล่าวหาเรื่องการขาดความรับผิดชอบ ลอยตัวเหนือปัญหา ไม่ชี้แจงประเด็นที่ถูกกล่าวหา โดยเฉพาะเรื่องนโยบายรับจำนำข้าว โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่ถูกตั้งข้อสังเกตถึงความไม่โปร่งใส และ เอื้อประโยชน์พวกพ้อง

                   

<"">

ฉายารัฐมนตรี
 1. น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร   นายกรัฐมนตรี
ได้ฉายา “ ปูกรรเชียง ”

ความหมาย : ล้อจากชื่อเล่นของนายกฯ คือ “ปู”  ซึ่งลักษณะของปู คือ เดินเซไปเซมา ไม่ตรงทาง ในการบริหารงานของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ต้องแบกภาระ และ ใบสั่งจากพี่ชายชื่อทักษิณ  พี่สาว (เจ๊ ด.)   แม้แต่คนรอบข้างก็คอยลากไปลากมา ทำงานไม่เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรม ได้แต่เดินโชว์ไปโชว์มา เมื่อมีปัญหาทางการเมือง ก็มักจะตีกรรเชียง ลอยตัวหนีปัญหา
 
                    

<"">

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี
ได้ฉายา “กันชนตระกูลชิน”

ความหมาย :   บอดี้การ์ดคอยปกป้องนายกฯ และ นายใหญ่ โดยเฉพาะคนตระกูลชินวัตร  ทุกรูปแบบทั้งงานในสภา และ ม๊อบต้านรัฐบาล เดินหน้าท้าชนทุกเรื่อง แต่กลัวการลงไปแก้ปัญหาภาคใต้   ผลงานโดดเด่น คือการปราบปรามยาเสพติด

                    

<"">

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ได้ฉายา “ลูกไก่ไวท์ไล”

ความหมาย :   เป็นถึงรองนายกฯ ที่กำกับดูแลงานด้านเศรษฐกิจของประเทศ  แต่กลับดิสเครดิตตัวเองจากกรณี  โกหกสีขาว  คือ การตั้งเป้าทางเศรษฐกิจเกินจริง จนถึงถูกตราหน้าว่า ขี้โกหก เหมือนเด็กเลี้ยงแกะส่วนคำว่าลูกไก่ ล้อจากชื่อเล่น “โต้ง” แต่เนื่องจากผลงาน และประสบการณ์ ทางการเมืองยังไม่เด่นชัด และเก่งกาจตามที่ถูกคาดหวัง จึงเป็นได้เพียงลูกไก่ ไม่ใช่ไก่โต้ง

                   

<"">

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ได้ฉายา “ตามล่าหน้าหล่อ”

ความหมาย : ตำแหน่งใหญ่โตแต่กลับไม่มีผลงานโดดเด่นด้านความมั่นคง ผลงานเป็นที่ประจักษ์เพียงอย่างเดียว คือ การไล่ล่า อดีตนายกฯ หน้าหล่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อถอดยศ กรณีหนีการเกณฑ์ทหาร  นอกจากนี้ ยัง ถูกหลานโอ๊ค “พานทองแท้ ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุค สั่งสอน ข่าวลอบทำร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆที่ พานทองแท้ เป็นเพียงเด็ก ที่ผ่านการเรียน ร.ด.มาเท่านั้น แต่สามารถสั่งสอนคนระดับนายพลได้

                    

<"">

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
ได้ฉายา “ไพร่เทียม”

ความหมาย : เป็นโควต้าหนึ่งเดียวของ นปช. คนเสื้อแดง ที่ได้เป็น รัฐมนตรี แม้ในการปรับ คณะรัฐมนตรีล่าสุด ก็ยังคงเป็นได้เป็นรัฐมนตรี ส่งผลให้ นายจตุพร พรหมพันธ์ 1 ในแกนนำ นปช. ที่ได้รับการคาดหมาย จะได้รับตำแหน่งต้องพลาดหวัง  ขณะที่ผลงานไม่เด่นชัด มีชัดเจนเพียงการพูดเก่ง ดีแต่ปาก ขณะที่เมื่อมาเป็นรัฐมนตรี กลับใช้ชีวิต และการทำงาน ลักษณะอำมาตย์ ไม่ต่างจากคำว่าไพร่เทียม

                    

<"">
     

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
 ได้ฉายา “บุญทรุด”

ความหมาย :  รัฐนตรีที่รับผิดชอบนโยบายหลักของรัฐบาล คือ รับจำนำข้าว การแก้ปัญหา สินค้า ราคาแพง แต่กลับถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ โดยเฉพาะเรื่องการรับจำนำข้าว แทนที่จะเป็นผลงาน กลับกลายเป็นจุดอ่อน ให้ถูกโจมตี ข้อกล่าวหาต่าง ๆไม่สามารถชี้แจงได้ อาทิ สัญญาซื้อขายข้าว แบบ จีทูจี ขณะเดียวกันกลับถูกมองว่า ที่ยัสามารถเป็นรัฐมนตรีอยู่ได้เพราะเป็นเด็กเจ๊ ด.

                   

<"">

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ได้ฉายา “ด.ดันดี”

ความหมาย : เด็กเจ๊แดง ผลงานไม่เป็นที่ปรากฎ แต่ไม่เคยถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี  ยึดเก้าอี้ได้เหนียวแน่น แถมล่าสุด ยังไต่ระดับ ขึ้นมาเป็น รัฐมนตรีว่าการเลยทีเดียว เชื่อว่ามีแรงดันดีจากเจ๊ด.อีกคน

                   

<"">

นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
 ได้ฉายา “โฟร์แมนสแตนด์บาย”

ความหมาย : เป็นรัฐมนตรีน้องใหม่ และเป็นที่คาดหวังของรัฐมนตรีน้ำดี ซึ่งถูกมอบหมายให้ทำงานสารพัด  ไฟแรง เป็นคนเก่ง ประกาศไม่ขอยุ่งการเมือง เร่งผลักดันงานด้านคมนาคม รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าต่างๆ  เป็นคนที่มีหุ่นล่ำทรมานใจสาวๆ

                    

<"">

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี
ได้ฉายา “ปั้นน้ำเป็นทุน“

ความหมาย : ผลงานโดดเด่น คือรับผิดชอบการแก้ปัญหาน้ำท่วม และ เนื่องจากปีนี้น้ำไม่ท่วม  มั่นใจว่าเป็นฝีมือของตนเอง จึงคุยโม้ และ แอคอ๊าท โดยเฉพาะเมื่อได้รับการเลื่อนขั้นจากรัฐมนตรี ขึ้นเป็นรองนายกฯ  ที่ได้ดูแลโปรเจ็คน้ำมูลค่ากว่า 3.5 แสนล้าน

                     

<"">

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ได้ฉายา “สิงห์สำรอง”

ความหมาย :  สัญลักษณ์ของกระทรวงมหาดไทย คือสิงห์ แต่เส้นทางการเข้ามาทำหน้าที่ของนายจารุพงษ์ ทั้งตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถูกมองว่า เป็นเพียงหุ่นเชิด ไม่ใช่ตัวจริง แกทั้งเป็นการเดินตามรอยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่เจอวิกฤติการเมืองจนต้องลาออกไป จึงถูกมองว่าเป็นได้เพียงสิงห์สำรองเท่านั้น
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง