สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นทางภาคใต้ที่ยังวิกฤต
นายสามารถ วราดิศัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากสถานการณ์อุทกภัยทั้งจังหวัด หลังฝนตกลงมาเพิ่ม ทำให้น้ำท่วมในจังหวัดนราธิวาสขยายวงกว้าง โดยมีผู้ประสบภัยรวม 25,158 คน ประชาชนอพยพไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพเป็นการชั่วคราวแล้ว จำนวน 345 คน แยกเป็น อำเภอจะแนะ 75 คน อำเภอแว้ง 27 คน อำเภอสุไหงโก-ลก 160 คน และ อำเภอสุคิริน 83 คน ส่วนสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ประกอบด้วย ถนนถูกน้ำท่วมจนยานพาหนะไม่สามารถสัญจรไปมาได้ 13 สาย คอสะพานถูกน้ำกัดเซาะ 2 แห่ง และฝายน้ำล้นถูกน้ำที่เชี่ยวกรากพัดเสียหาย 2 แห่ง
ขณะเดียวกันในแต่ละอำเภอเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป ทั้งน้ำดื่ม อาหาร รวมถึงยารักษาโรค เนื่องจากพบว่า เริ่มมีเด็กและคนชรามีอาการป่วยทางระบบหายใจแล้ว
ด้านทหารจากหน่วยฝึกรบพิเศษ จังหวัดนครศรีธรรมราช เร่งซ่อมสะพานข้ามคลอง ระหว่างบ้านเขาพับผ้า และบ้านบ่อน้ำร้อน ตำบลสี่ขีด อำเภอสิชล จนแล้วเสร็จช่วงเช้าวานนี้ ส่วนน้ำตามลำคลองสาขา และลำคลองสายหลัก เริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าระดับน้ำจะกลับสู่ภาวะปกติในเร็วๆนี้
ส่วนเกษตรกร 4 หมู่บ้าน ในตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง เข้าแจ้งรายชื่อกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อขอรับความช่วยเหลือหลังผลผลิตทางการเกษตรเสียหายไปกว่า 200 ไร่ เช่นเดียวกับระบบการไฟฟ้าภายในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ได้เร่งแก้ไขให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว แต่ชาวบ้านในพื้นที่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์บำรุงทางหลวงชนบท อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เร่งซ่อมแซมถนนเลียบชายทะเล สายอำเภอเมือง-อำเภอจะนะ โดยใช้รถแบ็คโฮ เกลี่ยหินขนาดใหญ่เพิ่มความแข็งแรงของถนน หลังถนนสายนี้ถูกคลื่นกัดเซาะเสียหายหลายสิบเมตร
ส่วนที่จังหวัดยะลา มีฝนตกลงมาอย่างหนักเกือบตลอดทั้งวัน ทำให้หลายหมู่บ้านในอำเภอรามัน เริ่มมีน้ำท่วมขังเฉลี่ย 50 เซ็นติเมตร เช่นเดียวกับพื้นที่การเกษตรได้ความเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี ยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง