หลายพื้นที่ภาคใต้ยังประสพภัยน้ำท่วม
ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง บวกกับน้ำจากเทือกเขาบูโด ที่ไหลมาสมทบ ทำให้ระดับแม่น้ำสุไหงโก-ลกล้นตลิ่งและเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัย อยู่ริมแม่น้ำ หลายครอบครัวต้องอพยพไปยัง โรงเรียนเทศบาล 4 บ้านทรายทอง ซึ่งเป็นศูนย์อพยพชั่วคราว เช่นเดียวกับประชาชน 12 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส ยังคงเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมขัง กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากได้กัดเซาะกุฎิร้างของวัดทรายทอง บ้านบากง หมู่ที่ 6 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ ได้รับความเสียหาย ทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 บ้านเจาะวา อำเภอสุไหงปาดี นำสิ่งของจำเป็นในการยังชีพไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยเพื่อเป็นการบรรเทา ความเดือดร้อนเบื้องต้น
ขณะที่ จังหวัดพัทลุง มีปริมาณฝนลดลง ทำให้ระดับน้ำใน 4 อำเภอ คือ อำเภอตะโหมด ,กงหรา ,ศรีนครินทร์และอำเภอศรีบรรพต ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เหลือเพียงพื้นที่ราบลุ่มรวม 27 ตำบล ของอำเภอเมือง,ควนขนุน,บางแก้ว และ อำเภอปากพะยูน ยังคงมีระดับน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง สรุปความเสียหายเบื้องต้นจากฝนที่ตกหนักและน้ำท่วมขังเป็นเวลานานกว่า 3 วัน ทำให้พื้นที่การเกษตร เกือบ 80,000 ไร่ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 4พัน ครอบครัว เสียหายรวมกว่า 400 ล้านบาท
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม จนถึงวันที่ 29 ธันวาคมนี้ เนื่องจากลมตะวันออก ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยภาคใต้ ยังมีกำลังแรง