การบังคับใช้กฏ 
เเม้ว่าการรณรงค์ เเละประชาสัมพันธ์จากเจ้าหน้าที่ มีอย่างต่อเนื่อง เเต่ก็ยังคงพบนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มฝ่าฝืนกฏระเบียบ นำเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์เข้ามาดื่มอย่างที่เห็น หลายฝ่ายจึงตั้งคำถามว่า พฤติกรรมเช่นนี้ สาเหตุหนึ่งมาจากความเข้าใจตามนโยบายของอธิบดี กรมอุทยานเเห่งชาติ สัตว์ป่าเเละพันธุ์พืชหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้หลายคนเข้าใจว่า กรมอุทยานฯ อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์เข้ามาดื่มในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้
เเม้ว่าทางกรมอุทยานฯ จะออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่า เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว เเต่กรณีนี้เครือข่ายองค์กรงดเหล้ากลับมองว่า การส่งสัญญาณของอธิบดีกรมอุทยานฯ ในลักษณะเช่นนี้ อาจทำให้สังคมเกิดความสับสน เเละยังขัดกับนโยบายเดิมที่มีการประกาศห้ามก่อนหน้านี้
ล่าสุด อธิบดีกรมอุทยานเเห่งชาติ สัตว์ป่าเเละพันธุ์พืช ออกมาชี้เเจงถึงประเด็นนี้ว่า เรื่องทั้งหมดเกิดจากความเข้าใจผิด เเละยืนยันว่านโยบายทั้งหมดยังเหมือนเดิม ซึ่งก็ยังถือเป็นแนวทางปฏิบัติอยู่ เเต่การตรวจค้นอาจไม่สามารถปฏิบัติได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากรูปเเบบการนำเข้ามาของนักท่องเที่ยว มีหลากหลายรูปแบบ
ปัจจุบันกรมอุทยานฯ มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ตามพระราชบัญญัติ อุทยานแห่งชาติ ปี 2504 ว่าด้วยการห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เข้าไปภายในอุทยานแห่งชาติ หากฝ่าฝืนจะมีความผิด เเละมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท นอกจากความผิดตามกฎระเบียบของกรมอุทยานฯ แล้ว ผู้ที่ฝ่าฝืนยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ควบคุมเครื่องดื่มแอกลอฮอล์ ปี 2551 ว่าด้วยการห้ามจำหน่ายห้ามดื่มในสถานที่ต้องห้าม ขณะนี้อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้สั่งไปยังหัวหน้าอุทยานฯทุกเเห่งทั่วประเทศ ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา เพื่อให้การท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ เป็นระเบียบเรียบร้อย