กระแสฟุตบอลไทยฟีเวอร์
การทำทีมได้เพียงแค่รองแชมป์ซูซูกิคัพ สำหรับทีมชาติไทยถือว่าต่ำว่าเป้าหมาย และต้องรอคอยแชมป์อาเซี่ยนต่อไปอีก 2 ปี ทำให้มีหลายฝ่ายวิพากย์วิจารณ์การทำงานของวินฟรีด เชเฟอร์ ที่ต้องเสียค่าจ้างพร้อมกับทีมงานชาวเยอรมันกว่า 1 ล้านบาทต่อเดือนในการทำทีม ซึ่งถ้ามากมองในแง่ของผลงาน ถือว่ามาตรฐานเทียบเท่ากับโค้ชไทย แต่ถ้ามองในด้านการพัฒนารูปแบบการทำทีม ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี กว่าการทำทีมของ ปีเตอร์ รีด, ไบรอัน ร็อบสัน 2 กุนซือชาวต่างชาติ ที่เคยเข้ามาคุมทีมชาติไทยก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเรื่องจิตวิทยาในการทำทีม
กระแสของฟุตบอลไทยที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง บัตรชมเกมของทีมชาติไทยกลายเป็นสิ่งหายากไม่เพียงพอต่อความต้องการแฟนบอลมี การรอคิวซื้อบัตรตั้งแต่ก่อนเปิดขาย 6 ชั่วโมง จนถึงขั้นมีการปาไข่หน้าสมาคมฟุตบอลเมื่อไม่ได้บัตร สิ่งเหล่านี้เป็นการแสดงถึงกระแสฟุตบอลไทยฟีเวอร์ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้แฟนบอลชาวไทยกลับมาสนใจอยากเห็นการพัฒนาของทีมชาติไทยต่อไป
ปีหน้าทีมชาติไทยจะมีโปรแกรมสำคัญ คือการลงเล่นฟุตบอลเอเชี่ยนคัพรอบคัดเลือก ซึ่งไทยอยู่ในสายบีร่วมกับ คูเวต เลบานอน, อิหร่าน ซึ่งเป็นงานที่ยาก โดยนัดแรกจะได้เล่นในบ้านพบกับ คูเวตในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 จากนั้นจะต้องบุกไปเยือนเลบานอน ซึ่งเอเชี่ยนคัพไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร แต่คนไทยทุกคนมีหน้าที่ให้กำลังใจทีมชาติไทยเพื่อเป้าหมายเป็น 1 ใน 2 ทีมที่ดีที่สุดของสายและเข้ารอบสุดท้าย