ทหารส่งคืนพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก หลังพบปัญหารุกที่ป่าสงวน

ภูมิภาค
2 ม.ค. 56
13:31
300
Logo Thai PBS
ทหารส่งคืนพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก หลังพบปัญหารุกที่ป่าสงวน

จังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ ทำเรื่องขอส่งคืนพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาค้อ ที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ และจัดสรรให้ราษฎรอาสาสมัครที่ร่วมต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายตั้งแต่ปี 2525 ให้กับกรมป่าไม้ เนื่องจากพบว่ามีการลักลอบขายสิทธิ์ทำกินในที่ดินและมีการรุกป่าสงวนเพิ่มขึ้นในช่วงกว่า 10 ปี ที่ผ่านมา

ที่พักและรีสอร์ท จำนวนมากในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาค้อ ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 ได้รับอนุมัติจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้นำมาจัดสรร เป็นที่อาศัย และทำกินให้กับราษฎรในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก หรือ ราษฎรอาสาสมัคร ที่ร่วมกับหทารปราบปรามผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ จำนวน 1,741 ครอบครัว รวมพื้นที่กว่า 45,000 ไร่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 สะท้อนการใช้ประโยชน์ ที่ผิดเงื่อนไข และปัญหาการรุกป่าสงวนแห่งชาติของนายทุน ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

ทายาทของราษฎรอาสาสมัครรายนี้ยอมรับว่า มีนายทุนเข้ามาซื้อที่ดินชาวโดยให้ราคาสูงถึงไร่ละ 300,000-400,000 บาท ทำให้ราษฎรอาสาส่วนหนึ่งลักลอบขายสิทธิ์ แม้จะรู้ว่าผิดเงื่อนไขของกองทัพ ส่วนครอบครัวของเขา แม้จะไม่ขายสิทธิ์ทำกินในที่ดิน แต่ก็ลงทุนสร้างที่พักและร้านอาหาร เป็นรายได้หลัก ควบคู่กับการทำเกษตร

ปัญหาการลักลอบขายสิทธิ์ทำกินของราษฎรอาสาสมัคร และการรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาค้อ ที่ยืดเยื้อมากว่า 10 ปี ทำให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าระดับจังหวัด หรือ คปป.จ.เพชรบูรณ์ แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้ประโยชน์ โดยได้จับกุมผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาค้อ 55 ดคี รวมพื้นที่ 297 ไร่ ล่าสุดยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดี และดำเนินการปลดราษฎรอาสาสมัคร ที่ขายสิทธิ์ทำกินในที่ดินให้กับนายทุน 181 ราย

เพื่อเป็นการยุติการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาค้อ จังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ ทำเรื่องขอส่งคืนพื้นที่ให้กรมป่าไม้เข้ามาดูแล เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2555 เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างทางกฎหมาย เนื่องจาก พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ได้ถูกยกเลิกไป ทำให้ไม่มีความชัดเจนในการบังคับใช้กฏหมายต่อราษฎรอาสาสมัคร ที่กระทำผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไข รวมถึงนายทุนที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาค้อ โดยล่าสุดเรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมป่าไม้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง