4 ปีที่ล้มเหลวของฟุตบอลทีมชาติในซีเกมส์
ย้อนกลับไปดูซีเกมส์ครั้งที่ 25 ที่ลาวเป็นเจ้าภาพ ทีมฟุตบอลชายไทยภายใต้การคุมทีมของ สตีฟ ดาร์บี้ โค้ชชาวอังกฤษและซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ผู้ช่วยโค้ช พาทีมซึ่งพกดีกรีแชมป์ 8 สมัยติดต่อกันประเดิมสนามนัดแรกทำได้เพียงแค่เสมอกับเวียดนาม 1-1
แต่หลังจากนั้นในอีก 2 นัดถัดมา ชนะ กัมพูชา 4-0 และถล่ม ติมอร์เลสเต้ 9-0 ซึ่งนัดสุดท้ายในการเล่นกับมาเลเซีย ต้องการเพียงแค่เสมอจะเข้ารอบทันที โดยทีมชาติไทยส่งนักเตะชุดใหญ่ลงสนามทั้ง กวิน ธรรมสัจจานันท์ อนาวิน จูจีน อดุลย์ หละโสะ แม้จะขึ้นนำมาเลเซียก่อน แต่หลังจากนั้นกลับถูกมาเลเซียทำ 2 ประตูรวด พร้อมกับเขี่ยทีมชาติไทยตกรอบแรกซีเกมส์ เป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี
ซีเกมส์ครั้งถัดมาที่ประเทศอินโดนีเซีย ฟุตบอลชายแบกความหวังของแฟนบอลเช่นเดิมในการกลับมาทวงเหรียญทองซีเกมส์ ภายใต้การคุมทีมของโค้ชเหม่ง ประพล พงษ์พานิช การลงสนามนัดแรกของไทยเจอกับมาเลเซียทีมที่เขี่ยไทยตกรอบแรกซีเกมส์ที่ลาว แต่สกอร์ยังเป็นเช่นเดิมเมื่อไทยแพ้มาเลเซียไป 1-2 แม้นัดที่ 2 จะถล่มกัมพูชา 4-0 แต่นัดต่อมาในการเจอกับอินโดนีเซีย ไทยต้องชนะเท่านั้น จึงจะมีลุ้นเข้ารอบ สุดท้ายแพ้อินโดนีเซีย 1-3
ไทยตกรอบแรกซีเกมส์เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน แถมนัดสุดท้ายยังแพ้สิงคโปร์ 0-2 ทำให้ซีเกมส์ที่อินโดนีเซียลงแข่ง 4 นัดไทยมีเพียง 3 คะแนน ตกรอบมาพร้อมกับเสียงวิพากย์วิจารณ์การทำงานของนักเตะ สต้าฟโค้ช และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังต้องเจอกับข่าวร้ายเมื่อโค้ชเหม่งเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ 4 ปีที่ผ่านมาเป็นยุคที่ฟุตบอลทีมชาติไทยตกต่ำมากที่สุดครั้งหนึ่ง