กองทัพบกยันกำลังพลดูแลพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารเต็มที่

กองทัพบกยืนยันกำลังพลในพื้นที่จะดูแลพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารอย่างเต็มที่ พร้อมระบุการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถือเป็นบทบาทของรัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศ ขณะที่นายกรัฐมนตรียืนยันการต่อสู้คดีจะยึดประโยชน์ของประเทศ โดยไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นการเมืองหรือความสัมพันธ์อื่นใด

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอให้กลุ่มคนไทยหัวไทยรักชาติชุมนุมเคลื่อนไหวกรณีประเด็นปัญหาประสาทพระวิหารด้วยความสงบ โดยยืนยันในแนวทางการต่อสู้ที่จะยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก และจะปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มที่ พร้อมมอบหมายให้นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปพิจารณาแนวทางต่อสู้ จึงเห็นว่าไม่ควรโยงเรื่องนี้เป็นประเด็นการเมือง ทั้งนี้ ยืนยันว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะไม่มีผลในการต่อสู้คดี

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ย้ำว่าการยื่นหนังสือของพันธมิตรฯ เป็นสิ่งที่ดำเนินการ และควรอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ส่วนการดูแลพื้นที่ปราสาทพระวิหาร กำลังพลปฏิบัติหน้าที่ดูแลอย่างเต็มที่ แต่การทำหน้าที่ชี้แจงต่อประชาชนเป็นเรื่องที่รัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศต้องดำเนินการ โดยกองทัพพร้อมให้การสนับสนุนด้านข้อมูล

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. กล่าวว่า สถานการณ์รอบปราสาทเขาพระวิหารยังเป็นปกติ ไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรง ส่วนการเคลื่อนไหวมีเพียงกลุ่มของนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เท่านั้นที่จะมีการเคลื่อนไหว ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่ากองกำลังเจ้าหน้าที่ของทหารกัมพูชาจะเพิ่มกำลังรอบปราสาทเขาพระวิหารนั้น พล.ท.ภารดร กล่าวยืนยันว่า ไม่มีเพิ่มกองกำลังอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม พล.ท.ภราดร กล่าวย้ำว่า ศาลโลกยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำตัดสินแต่อย่างใด ยังยืนคำตัดสินในปี 2505 ซึ่งจะเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน และกลุ่มที่จะมีการเคลื่อนไหว เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง