ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่สนามบริททาเนีย สโต๊ค ซิตี้ แพ้ เชลซี 0-4 โดยโจนาธาน วอลเทอร์ กองหน้าของสโต๊คทำเข้าประตูตัวเองถึงสองลูกให้ เชลซีนำก่อน 2-0 ก่อนที่เชลซีจะได้อีกสองประตูจากจุดโทษของแลมพาร์ด และ เอดอง อาซาร์ ช่วงท้ายเกม วอลเทอร์ ยังยิงจุดโทษไม่เข้าด้วย หลังจบเกม โทนี่ พูลิส โค้ชของสโต๊กไม่โทษความผิดพลาดของ วอลเทอร์ และชี้ว่านี่ไม่ใช่วันของสโต๊ค เพราะทีมเล่นได้ดีและไม่น่าแพ้ด้วยสกอร์ขาดลอยถึง 4-0
ส่วนราฟาเอล เบนิเตซ โค้ชของเชลซีออกมาชื่นชมผลงานของลูกทีมทุกคน หลังนัดก่อนแพ้ต่อสวอนซีคาบ้าน 0-2 ในฟุตบอลแคปปิตอล วันคัพ รอบรองชนะเลิศ นอกจากนี้เบนิเตซยังพอใจกับทัศนคติของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ถูกดร็อปเป็นตัวสำรองของ เดมบ้า บา ในนัดนี้ด้วย
ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ เสมอ สเปอร์ส 0-0, แอสตัน วิลล่า แพ้ เซาท์แธมป์ตัน 0-1, เอเวอร์ตัน เสมอ สวอนซี 0-0, ฟูแล่ม เสมอ วีแกน 1-1, นอริช เสมอ นิวคาสเซิล 0-0, เรดดิ้ง ชนะ เวสต์บรอมวิช 3-2 และ ซันเดอร์แลนด์ ชนะ เวสต์แฮม 3-0
ส่วนคืนนี้มีเกมสองคู่สำคัญ คู่แรกเป็นแดงเดือด ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด.. แมนยูไนเต็ด จ่าฝูง พบ ลิเวอร์พูล นัดแรกพบกันแมนยูเป็นฝ่ายชนะไป 2-1 ที่แอนฟิลด์.. เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมบอกว่าแมนยูไม่ต้องวางแผนรับมือกับ หลุยซ์ ซัสเรซ เป็นพิเศษ เพราะแมนยูเคารพคู่แข่งทุกคน นอกจากนี้เฟอร์กูสันยังยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจกับผลงานของลิเวอร์พูล ที่มีคะแนนตามหลังแมนยูถึง 21 แต้มในเวลานี้
ส่วนสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมลิเวอร์พูล ยอมรับว่าหากเกิดเหตุการณ์เดียวกับที่ ซัวเรซ ใช้มือช่วยทำประตูในเกมเอฟเอคัพที่ชนะแมนฟิลด์ขึ้นที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด เขาก็จะฉลองการทำประตู และคงไม่เข้าไปยอมรับกับไลน์แมนหรือผู้ตัดสิน ซึ่งเชื่อว่านักเตะของแมนยูรวมถึงเฟอร์กูสันเองก็จะทำแบบนั้นเช่นกันาหกมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น... เกมแดงเดือดนัดนี้ยังเป็นการวัดฝีเท้าของ ซัวเรซ ที่ยิงไปแล้ว 15 ประตูกับ ฟาน เพอร์ซี่ ดาวซัลโวที่ยิงไป 16 ประตู ขณะที่อีกคู่ที่สำคัญ อารืเซนอลจะเปิดบ้านพบกับ แมนซิตี้ แชมป์เก่า