องค์กรมุสลิม 5 จว.ภาคใต้ แถลง ไม่ส่งโรฮิงยากลับพม่า
องค์กรมุสลิมใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เตรียมแถลงจุดยืน เรียกร้องไม่ให้รัฐบาลส่งชาวโรฮิงยากลับพม่า เพื่อสร้างภาพลักษณ์ดีของประเทศไทย สำหรับชาวโลกมุสลิม ส่วนชาวบ้าน อ.สะเดา จ.สงขลา ได้เหลือชาวโรฮิงยา ซึ่งหลงทางในป่าได้ 8 คน หลังขบวนการค้ามนุษย์ใน จ.สตูล ปล่อยตัว เพราะกลัวความผิด
ชาวโรฮิงยา 8 คน ถูกนำตัวไปดูแลบริเวณมัสยิดญามิอุนมุตตากีน บ้านฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่นำอาหารและเสื้อผ้ามาบริจาค
โดยชาวโรฮิงยากลุ่มนี้ เป็นหนึ่งในจำนวน 30 คน ซึ่งถูกขบวนการค้ามนุษย์ใน จ.สตูล ปล่อยตัวแทนการส่งไปค้าแรงงานที่มาเลเซีย เพราะกลัวความผิด เพราะรู้ข่าวจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งตำรวจภูธรจ.สงขลา เข้าช่วยเหลือชาวโรฮิงยา 800 คน ซึ่งถูกกังขังอยู่กลางป่าสวนยางใน ต.ปาดังเปซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และหลงทางในป่าเทือกเขาแก้ว รอยต่อจังหวัดสงขลากับจังหวัดสตูล เป็นเวลา 7 วัน
ด้านองค์กรมุสลิมใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เตรียมแถลงจุดยืนในการเรียกร้องให้รัฐบาล ช่วยเหลือชาวโรฮิงยา จนกว่าจะหาประเทศที่สามที่สามารถเดินทางไปได้ โดยไม่มีการส่งตัวกลับไปยังพม่า เพราะชาวโรฮิงยาไม่ต้องการกลับพม่าเพื่อสู้รบและถูกกดขี่ในพื้นที่
นายวิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรีประจำภาคใต้ กล่าวว่า เมื่อโรฮิงยาเข้ามาในประเทศ ต้องให้ความช่วยเหลือ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ในสายตาโลกมุสลิม
ส่วนความช่วยเหลือด้านอื่น องค์กรมุสลิมใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ประสานอีหม่ามประจำมัสยิดทุกแห่งในจังหวัดสงขลา ให้รับบริจาคเงินและสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือชาวโรฮิงยาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ตามหน่วยงานต่างๆ และให้กรรมการอิสลามแต่ละอำเภอ รับผิดชอบประสานงานดูแลชาวโรฮิงยาจนกว่าขบวนการทางกฎหมายจะเสร็จสิ้น