พบกล้องวงจรปิดที่ถูกเผาใน จ.ยะลา ส่วนใหญ่ใช้การไม่ได้จริง
แม้กล้องวงจรปิดรวม 76 ตัว ในจังหวัดยะลาจะถูกเผาเมื่อวันที่13 มกราคม แต่จากการตรวจสอบพบว่า กล้องส่วนใหญ่ซึ่งเป็นของกระทรวงมหาดไทยเหล่านี้ไม่สามารถใช้งานได้
กล่องที่ไร้กล้องวงจรปิด ซึ่งถูกติดตั้งบริเวณสี่แยกต่างๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นความล้มเหลวของโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดใน 5 จังหวัด รวม 3,596 จุดงบประมาณ 969 ล้านบาทซึ่งกระทรวงมหาดไทย ที่มีนายอารีย์วงค์อริยะ เป็นรัฐมนตรี ได้จัดทำขึ้น
โดยกำหนดติดตั้งกล้องวงจรปิด ในจังหวัดนราธิวาส 1,028 ตัวยะลา 596 ตัวปัตตานี 990 ตัวสงขลา 874 ตัวและสตูล 32 ตัว โดยได้ทำสัญญากับบริษัทดิจิตัล รีเสิร์ชแอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด หรือ ดีอาร์ซี ที่มีนายชาญ กุลถาวรากร เป็นเจ้าของโดยนัดส่งมอบงานวันที่ 7 พฤศจิกายน 2551และบริษัทได้เบิกเงินล่วงหน้า 145 ล้านบาทแต่เมื่อถึงปลายปี 2552 บริษัทกลับติดตั้งกล้องได้ไม่ถึงร้อยละ 10
โดยทางบริษัทชี้แจงกับนายถาวรเสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยอ้างว่า เจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยไม่ยอมตรวจรับงานอีกทั้งเหตุความรุนแรงจึงไม่สามารถติดตั้งกล้องได้ กระทรวงมหาดไทยจึงยอมเลิกสัญญา ทั้งๆที่รัฐเป็นผู้เสียผลประโยชน์ เพราะทางบริษัทจ่ายเงินคืนในการบอกเลิกแค่ 300 ล้านบาททั้งที่ความจริงแล้ว รัฐสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการส่งมอบล่าช้าได้มากกว่า 500 ล้านบาท
ซึ่ง 1 ในสาเหตุที่ทำให้เกิดการทุจริตในโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดของหน่วยงานรัฐในมุมมองของ นายกเทศมนตรีนครยะลาเห็นว่าเป็นเพราะรัฐไม่ได้กำหนดมาตรฐานกลางในคุณภาพของกล้อง รวมถึงความรับผิดทางการเมืองต่อการทุจริตที่ยังไม่ชัดเจน
นายกเทศมนตรีนครยะลาบอกว่า นอกจากจะติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มีคุณภาพสูง การดูแลให้ใช้งานได้ตลอดเวลาก็เป็นสิ่งจำเป็น เช่นเดียวกับที่ทางเทศบาลกันงบประมาณกว่า 4 ล้านบาท เพื่อดูแลกล้องกว่า 300 ตัวที่ใช้งบส่วนตัวกว่า 100 ล้านบาทในการจัดซื้อ ซึ่งยังสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพจนถึงปัจจุบัน