โครงการเขตเศรษฐกิจชายแดนไทย-พม่ายังไม่คืบหน้า

โครงการเขตเศรษฐกิจชายแดนไทย-พม่า ด้านอ.แม่สอด จ.ตาก ที่มีการพลักดันมานานหลายปี แต่กลับมีความคืบหน้าล่าช้า ทำให้การเดินทางไปเยือนชายแดนอำเภอแม่สอดของนายกรัฐมนตรี ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จ.อุตรดิตถ์ในสัปดาห์หน้า จึงเป็นความหวังให้กับภาคธุรกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ที่จะทวงถามความคืบหน้าและเสนอโครงการต่างๆ

แม้จะเหลือเวลาอีกเพียง 2 ปี ที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ในปี 2558 แต่โครงการเขตเศรษฐกิจชายแดนจังหวัดตาก ซึ่งเป็นโครงการที่ภาคเอกชนผลักดันมา ตั้งแต่สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน ขณะที่ประเทศพม่ากลับมีการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการลดกฎระเบียบทางการค้า และเดินหน้าโครงการพื้นที่ชายแดนรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเดินทางไปเยือนชายแดนอ.แม่สอดของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ในวันพรุ่งนี้ จึงทำให้ตัวแทนจากภาคธุรกิจเตรียมทวงถามความคืบหน้าและเสนอโครงการต่างๆ

ไม่เฉพาะภาคเอกชน ที่ต้องการให้รัฐบาลส่งเสริมการค้าและการลงทุนในพื้นที่ แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็เตรียมเสนอของบประมาณเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นที่รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อาทิ โครงการถนนเลียบริมฝั่งแม่น้ำเมย โครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รวมทั้ง การผลักดันให้เทศบาลนครแม่สอดเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ

ปัจจุบันการค้าชายแดนในพื้นที่อำเภอแม่สอด มีมูลค่าประมาณปีละ 30,000 ล้านบาท แต่การเปิดประเทศและการปฏิรูปการเมือง อย่างก้าวกระโดดของพม่า ทำให้หลายภาคส่วนเชื่อมั่นว่า การค้ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าสูงขึ้น เนื่องจากอ.แม่สอด เป็นเส้นทางสายหลัก ตามความร่วมมือระหว่างไทย-พม่า โดยสินค้าที่ไทยส่งออกไปยังพม่าส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ก่อสร้าง ชิ้นส่วนวัสดุรถยนต์ เครื่องดื่มต่างๆ และเคมีภัณฑ์ ส่วนสินค้านำเข้าเป็นสินค้าในกลุ่มเกษตร พลังงาน และสินแร่ต่างๆ