ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯสมัยที่สองเป็นการภายในที่ห้องบูล รูม ทำเนียบขาว มีนางมิเชล โอบาม่า สตรีหมายเลขหนึ่งพร้อมด้วยบุตรสาว มาเลียและซาช่า เข้าร่วมในพิธี และมีนายจอห์น โรเบิร์ตส์ ผู้พิพากษาศาลสูงสุด เป็นผู้ทำพิธีกล่าวคำสาบานตน โดยประธานาธิบดีโอบาม่าได้วางมือลงบนพระคัมภีร์ไบเบิ้ลพร้อมกับกล่าวคำสาบานตนว่าจะรักษา พิทักษ์และปกป้องรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ
การที่โอบาม่าต้องทำพิธีสาบานตนเป็นการภายในเมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) เป็นไปตามข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าประธานาธิบดีจะเข้ารับตำแหน่งและเริ่มต้นบริหารประเทศเทอมใหม่ในเวลาเที่ยงของวันที่ 20 มกราคม เช่นเดียวกับรองประธานาธิบดีโจ ไบเด้น ที่สาบานตนเมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) ต่อหน้าประธานศาลยุติธรรมเช่นกัน
หลังเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนเป็นการภายในประธานาธิบดีโอบาม่าพร้อมครอบครัว และนายโจ ไบเด้น รองประธานาธิบดีและภริยา เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองที่อาคารพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี โดยได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์สั้นๆ ถึงความสำคัญของงานเฉลิมฉลองในวันนี้ ว่าเป็นการเฉลิมฉลองให้แก่ประเทศที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ และขอให้ทุกคนร่วมมือทำงานเพื่อส่งผ่านชาติที่ไม่เพียงทรงคุณค่าในอดีต แต่จะทรงคุณค่าต่อไปในอนาคต
ขณะที่การเตรียมการก่อนพิธีสาบานตนต่อหน้าสาธารณชนที่เฉลียงตะวันตกของอาคารรัฐสภา เข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว โดยพิธีสาบานตนจะมีขึ้นในเวลา 13:00 o. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 01:00 ในประเทศไทย และจะกล่าวสุนทรพจน์ในเวลา 14:00 ตามเวลาท้องถิ่น โดยคาดว่าการสาบานตนรับตำแหน่งสมัยที่ 2 จะมีประชาชนผู้สนับสนุนราว 800,000 คน รวมตัวเป็นสักขีพยานในพิธี ซึ่งน้อยกว่าการสาบานตนในสมัยแรก ที่มีผู้เข้าร่วมพิธีถึง 2,000,000 คน ท่ามกลางความหวังต่อประธานาธิบดีเชื้อสายแอฟริกัน -อเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่ประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกในสมัยที่สองล้วนต้องเผชิญ และในการดำรงตำแหน่งสมัยแรก ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นำพาประเทศผ่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้าย, ยุติสงครามในอิรัก, เตรียมการถอนทหารจากอัฟกานิสถาน, ผลักดันการยกเครื่องระบบหลักประกันสุขภาพในประเทศ
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ผู้นำสหรัฐฯ จะต้องเริ่มต้นสะสางปัญหาที่คั่งค้าง ทั้งการสานต่อนโยบายในการหาเสียง การผลักดันนโยบายที่ยังทำไม่ได้ในสมัยแรก และปัญหาท้าทายที่มีแนวโน้มเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ว่าจะเป็นการลดอัตราว่างงาน การผลักดันนโยบายควบคุมอาวุธปืน การจัดทำงบประมาณและเพิ่มเพดานหนี้ รวมทั้งปัญหาท้าทายเรื่องการต่างประเทศ ทั้งโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน เกาหลีเหนือ และการรับมือกับอิทธิของจีนที่เพิ่มสูงขึ้น