คนอังกฤษส่วนใหญ่ ต้องการถอนตัวจากสหภาพยุโรป
ผลการสำรวจของ "ดิ ออฟติมั่ม ออฟเซิร์ฟเวอร์" ซึ่งสอบถามความเห็นของชาวอังกฤษ พบว่า ร้อยละ 53 เห็นด้วยกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป และร้อยละ 19 ไม่เห็นด้วย โดยมีสาเหตุจากคำกล่าวของผู้นำอังกฤษทำให้เมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) เงินปอนด์อ่อนค่าที่สุดในรอบ 5 เดือน นักธุรกิจเตือนว่า การพูดเรื่องนี้ของนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดความไม่แน่นอน เรื่องสถานภาพของอนาคตอังกฤษในสหภาพยุโรป เป็นการทำลายบรรยากาศของการลงทุน
นายเอ็ด มิลลิแบนด์ หัวหน้าพรรคแรงงาน ฝ่ายค้าน กล่าวตำหนิถึงนายคาเมรอน ว่า ทำให้เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในความเสี่ยง
ด้านนางแองเกล่า เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี กล่าวว่า ต้องการให้อังกฤษ เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปต่อไป ซึ่งสหภาพยุโรปพร้อมเจรจากับอังกฤษ และหาทางออกประนีประนอมและยุติธรรม
นายมาริโอ้ มอนติ นายกรัฐมนตรีของอิตาลี กล่าวว่า ถ้ามีการทำประชามติ เชื่อว่าชาวอังกฤษตัดสินใจอยู่ในสหภาพยุโรปหรืออียูต่อ
ด้านนางคริสตีน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ กล่าวเตือนว่าหากประเทศผู้นำเศรษฐกิจโลก เช่น สหรัฐฯ,ญี่ปุ่นหรือยุโรป ยังไม่ปรับตัว จะเกิดความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจซึ่งจะกระจายไปประเทศอ่อนแอ
ในการประชุมครั้งนี้ นอกจากการหารือในประเด็นเศรษฐกิจ จะมีหารือเรื่องความรุนแรงในซีเรียด้วย ทั้งนี้ บารอนเนส วาเลอรี่ อามอส รองเลขาธิการของสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้ประชาคมโลก ร่วมมือยุติความรุนแรงในซีเรีย โดยให้ชาวซีเรียมีความเชื่อมั่นและสามารถดูแลตัวเองได้